หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี่ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุในบทบรรณาธิการในวันนี้ว่า "จีนจะไม่มีวันยอมสูญเสียการที่ประเทศได้รับความเคารพ และไม่ควรมีผู้ใดคาดหวังว่าจีนจะยอมกินผลไม้พิษที่จะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศ"
นอกจากนี้ พีเพิลส์ เดลี่ยังระบุว่า "จีนเปิดกว้างสำหรับการเจรจา แต่จะไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลักการที่สำคัญ"
ทางด้านหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทมส์ระบุว่า จีนไม่มีเหตุผลที่จะต้องหวาดกลัวในเรื่องสงครามการค้า
"ความคิดที่ว่า จีนจะไม่สามารถรับผลกระทบจากการทำสงครามการค้า เป็นแนวคิดเพ้อฝัน และเป็นการตัดสินที่ผิดพลาด" โกลบอล ไทมส์ระบุในบทบรรณาธิการ
สื่อของจีนแสดงความคิดเห็นดังกล่าว ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงควรถูกตำหนิ กรณีการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในสัปดาห์ที่แล้ว และการที่สหรัฐเพิ่มการจัดเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนจะทำให้บริษัทต่างๆถอนตัวออกจากจีนไปยังเวียดนามและประเทศต่างๆในเอเชีย
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังเตือนจีนมิให้ทำการตอบโต้สหรัฐ เพราะจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
"ผมได้พูดอย่างเปิดเผยต่อท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และเพื่อนของผมในจีนว่า จีนจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หากไม่มีการบรรลุข้อตกลง เพราะบริษัทต่างๆจะถอนตัวออกจากจีนไปยังเวียดนาม และประเทศอื่นๆในเอเชีย เนื่องจากจะแพงเกินไปหากซื้อสินค้าที่ทำในจีน คุณได้ประโยชน์มามากแล้ว และคุณได้ถอนตัวจากข้อตกลง"
"จะไม่เหลือใครที่ทำธุรกิจในจีน ซึ่งจะเป็นเรื่องแย่มากสำหรับจีน แต่จะดีมากสำหรับสหรัฐ หลังจากที่จีนได้เอาเปรียบสหรัฐมานานหลายปี และจีนไม่ควรตอบโต้สหรัฐ เพราะจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ หลังจากที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจบลงด้วยความล้มเหลวในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10%
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ก็ไม่มีการเปิดเผยกำหนดการประชุมอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด