จีนเสียงแข็ง ย้ำให้สหรัฐยกเลิกแบน"หัวเว่ย" ขณะลั่นไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนทางการค้า

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 27, 2019 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ยังคงย้ำให้สหรัฐยกเลิกการคว่ำบาตรบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ขณะที่จีนยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนในประเด็นการค้ากับสหรัฐ

"เราขอเรียกร้องให้สหรัฐยุติการใช้มาตรการกดดันและคว่ำบาตรต่อบริษัทหัวเว่ย และบริษัทอื่นๆของจีน โดยให้ผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน" นายเกากล่าว

นอกจากนี้ นายเการะบุว่า จีนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ ตามที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรี และผู้นำการเจรจาการค้าของจีนได้วางแนวทางไว้ในเดือนพ.ค.

"ผมขอย้ำว่าการทำสงครามการค้าไม่มีผู้ชนะ โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบในที่สุดคือบริษัทสหรัฐ และผู้บริโภคของสหรัฐ" นายเกากล่าว

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่จีนระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเตรียมเสนอเงื่อนไขในการยุติสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐให้แก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในระหว่างที่ผู้นำทั้งสองพบปะกันในวันเสาร์นี้นอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่นครโอซากาของญี่ปุ่น

ในบรรดาเงื่อนไขที่จีนเรียกร้องต่อทางสหรัฐ ได้แก่ การให้สหรัฐยกเลิกคำสั่งห้ามการขายเทคโนโลยีของสหรัฐให้แก่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ รวมทั้งสหรัฐจะต้องยกเลิกการจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนทั้งหมด และยกเลิกความพยายามที่จะให้จีนซื้อสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น

การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10%

ปธน.ทรัมป์ยังขู่ว่า หากเขาและปธน.สี จิ้นผิงยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาการค้าช่วงสุดสัปดาห์นี้นอกรอบการประชุม G20 สหรัฐก็จะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออีก 3.5 แสนล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เพิ่มรายชื่อบริษัทจีนอีก 5 แห่งเข้าไปในบัญชีดำดังกล่าวในสัปดาห์ที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ