รายงานชี้เอเชียเผชิญวิกฤตด้านอาหาร ย้ำใช้ทุนถึง 8 แสนล้านดอลล์เพื่อแก้ปัญหาในอีก 10 ปีข้างหน้า

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 27, 2019 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC), ราโบแบงก์ และเทมาเส็กได้ร่วมการเปิดเผยรายงาน Asia Food Challenge Report เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า ภูมิภาคเอเชียกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านอาหาร เนื่องจากไม่สามารถผลิตอาหารเลี้ยงดูตัวเองได้ และจำเป็นต้องลงทุน 8 แสนล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อผลิตอาหารมากขึ้น และรองรับกับความต้องการอาหารภายในภูมิภาค

รายงานระบุว่า ประชากรในภูมิภาคเอเชียกำลังขยายตัว และผู้บริโภคมีความอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและมีความยั่งยืนมากขึ้น โดยการใช้จ่ายด้านอาหารจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า จาก 4 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2562 เป็นกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2573

รายงานระบุว่า หากไม่มีการลงทุนด้านอาหารเกิดขึ้น อุตสาหกรรมอาหารก็จะเผชิญความยากลำบากในการรองรับอุปสงค์ ซึ่งจะส่งผลให้ประชากรในภูมิภาคเอเชียอยู่ในภาวะที่ขาดแคลนอาหารมากขึ้น เนื่องจากภูมิภาคเอเชียไม่สามารถผลิตอาหารเพื่อรองรับความต้องการในภูมิภาคได้เอง แต่ต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหารจากทวีปอเมริกา, ยุโรป และแอฟริกา

ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวข้างต้นสอดคล้องกับผลการวิจัยจากรายงานของที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) โดยรายงานสถิติและแนวโน้มที่สำคัญในด้านการค้าระหว่างประเทศระบุว่า โดยทั่วไปแล้ว ประเทศในละตินอเมริกา, แอฟริกาตะวันออกและเอเชียใต้เป็นผู้ส่งออกอาหารสุทธิ ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ที่เหลือในเอเชียและแอฟริกายังคงเป็นผู้นำเข้าอาหารสุทธิ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ