Economist Intelligence Unit (EIU) เปิดเผยผลสำรวจค่าครองชีพทั่วโลกประจำปีนี้บ่งชี้ว่า เมืองโอซากาของญี่ปุ่นแซงหน้ากรุงปารีสขึ้นมาเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ร่วมกับสิงคโปร์และฮ่องกง
ภูมิภาคเอเชียมีเมืองที่มีค่าครองชีพแพงสุดถึง 4 แห่งจากอันดับสูงสุด 10 แห่งทั่วโลก โดยกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นอยู่ที่อันดับ 8
สำหรับค่าครองชีพในเมืองโอซากานั้น ขนมปังก้อนหนึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5.63 ดอลลาร์ แพงกว่าราคาขนมปังของกรุงดามัสกัสซึ่งอยู่ที่ 0.61 ดอลลาร์ถึง 9 เท่า โดยกรุงดามัสกัสของซีเรียเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดในโลก
สำหรับปารีส ซึ่งครองอันดับ 1 ร่วมกับสิงคโปร์และฮ่องกงในรายงานการจัดอันดับเมื่อปีที่แล้ว หล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 5 ในปีนี้ โดยครองอันดับร่วมกับเมืองซูริก และตามหลังนิวยอร์ก ซึ่งอยู่ที่อันดับ 4
ไซมอน แบพติสต์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ EIU ระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในสิงคโปร์ในปีที่แล้ว และผลกระทบจากการประท้วงเป็นเวลาหลายเดือนในฮ่องกง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงสุดของศูนย์กลางการเงินสองแห่งนี้แต่อย่างใด แต่สถานะดังกล่าวอาจจะเปลี่ยนแปลงในไม่ช้านี้
นายแบพติสต์กล่าวว่า ขณะที่สิงคโปร์และฮ่องกงยังคงเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงสุด แต่ค่าครองชีพเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ได้ลดลงมาระยะหนึ่งแล้ว หากแนวโน้มดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป ก็มีความเป็นไปได้ว่า สิงคโปร์และฮ่องกงจะหลุดจากอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงสุดใน 1 หรือ 2 ปีข้างหน้า
เขากล่าวเสริมว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงสุดในอนาคต โดยจะทำให้ค่าครองชีพสุทธิสูงขึ้นเล็กน้อย