สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ปรับลดจำนวนเจ้าหน้าที่ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ภายในจีนลงมากกว่า 2 ใน 3 อันเป็นส่วนหนึ่งของการปรับลดจำนวนผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพและวิทยาศาสตร์ในจีนที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสหรัฐ ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขึ้นในประเทศจีน
เอกสารของ CDC ระบุว่า การปรับลดเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่สำนักงานของ CDC ในกรุงปักกิ่ง และเกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ CDC ในแอตแลนตาซึ่งเป็นหน่วยงานต่อสู้โรคที่สำคัญของสหรัฐนั้น ได้ให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก และร่วมงานกับประเทศเหล่านั้นเพื่อช่วยในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดทั่วโลกของโรคติดเชื้อ ขณะที่ CDC ทำงานในจีนมาเป็นเวลาถึง 30 ปี
เอกสารระบุว่า จำนวนเจ้าหน้าที่ของ CDC ในจีนได้ลดลงเหลือราว 14 คน จากประมาณ 47 คนนับตั้งแต่ปธน.ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค. 2560 โดยสื่อระบุว่า การปรับลดเจ้าหน้าที่เหล่านั้นรวมถึงนักระบาดวิทยา และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
การปรับลดเจ้าหน้าที่ CDC ในจีน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ, นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ไม่สามารถช่วยจีนในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระยะแรกๆ และไม่สามารถให้ข้อมูลกับรัฐบาลสหรัฐได้มากนักเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในจีน ขณะที่รัฐบาลสหรัฐเองก็ได้ตำหนิจีนในเดือนก.พ.ที่ผ่านมาว่า จีนปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาด และขัดขวางผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐในการเข้าสู่ประเทศจีนเพื่อให้ความช่วยเหลือในการรับมือโรคระบาด
นายสก็อตต์ แมคแนบบ์ อดีตเจ้าหน้าที่ด้านระบาดวิทยาของ CDC กล่าวว่า ปัญหาคือจีน ไม่ใช่เพราะว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ CDC ในจีน โดยเขาระบุว่า การปกปิดข้อมูลของจีนเป็นปัญหาหลักท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งลุกลามจนทำให้มีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 435,470 รายแล้วทั่วโลก และทำให้มีผู้เสียชีวิต 19,598 ราย รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกด้วย