COVID-19คณะแพทย์จีนชี้ไวรัสโควิด-19 อาจกลายพันธุ์ หลังพบระบาดครั้งใหม่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข่าวต่างประเทศ Thursday May 21, 2020 09:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะแพทย์ของจีนเปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 ที่พบในผู้ป่วยกลุ่มใหม่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนนั้น มีลักษณะที่แตกต่างไปจากไวรัสโควิด-19 ที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดที่เมืองอู่ฮั่นในมณฑลหูเป่ยทางภาคกลางของจีน

คณะแพทย์จีนระบุว่า ไวรัสดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบที่ยังไม่รู้จัก และจะสร้างความยากลำบากมากขึ้นในการกำจัดไวรัสนี้

นายแพทย์ฉิว ไห่โป หนึ่งในคณะแพทย์ด้านการดูแลรักษาที่สำคัญของจีนเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลจีนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (19 พ.ค.) ว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่พบในมณฑลจี๋หลิน และมณฑลเฮยหลงเจียงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนนั้น ติดเชื้อไวรัสที่ต้องใช้เวลานานในการรักษากว่าจะหายดี และกว่าที่ผลตรวจเชื้อจะออกมาเป็นลบ

นายแพทย์ฉิวระบุด้วยว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน กว่าจะแสดงอาการของโรคให้เห็นหลังจากที่ติดเชื้อนั้น ใช้เวลานานกว่าผู้ป่วยในอู่ฮั่นราว 1-2 สัปดาห์ และการปรากฏอาการของโรคที่ใช้ระยะเวลานานขึ้นนั้น ทำให้หน่วยงานขของรัฐบาลจีนเผชิญความยากลำบากในการตรวจพบผู้ติดเชื้อก่อนที่พวกเขาจะแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น

นายแพทย์ฉิวระบุว่า การที่ผู้ติดเชื้อไม่ได้แสดงอาการป่วยเป็นระยะเวลานานขึ้นนั้น ได้ทำให้เกิดการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน (cluster) ภายในครอบครัว โดยมีรายงานว่าพบผู้ป่วยรายใหม่ 46 รายในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นการแพร่ระบาดใน 3 เมืองได้แก่เมืองซูหลาน, เมืองจีลิน และเมืองเสิ่นหยาง โดยการติดเชื้อครั้งใหม่ทำให้ทางการจีนต้องประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดอีกครั้ง

บรรดานักวิทยาศาสตร์ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าไวรัสโควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ และความแตกต่างที่คณะแพทย์จีนค้นพบนั้น อาจจะเป็นผลมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า พวกเขาสามารถสังเกตผู้ป่วยได้อย่างละเอียดมากขึ้น และสามารถสังเกตอาการผู้ป่วยได้ตั้งแต่เริ่มต้น มากกว่าในกรณีของผู้ป่วยในเมืองอู่ฮั่น เพราะในช่วงที่การแพร่ระบาดเริ่มปะทุขึ้นในอู่ฮั่นนั้น ระบบสาธารณสุขท้องถิ่นสามารถรับรักษาผู้ป่วยเฉพาะที่มีอาการรุนแรงที่สุดเท่านั้น ส่วนการระบาดครั้งใหม่แบบกลุ่มก้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นมีผู้ป่วยน้อยกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับในมณฑลหูเป่ยซึ่งมีผู้ป่วยถึง 68,000 คน

อย่างไรก็ตาม การค้นพบดังกล่าวบ่งชี้ว่า ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับลักษณะของไวรัส ซึ่งจะขัดขวางความพยายามของรัฐบาลต่างๆ ในการควบคุมการแพร่ระบาด และการเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยจีนมีระบบตรวจจับและทดสอบไวรัสที่ครอบคลุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ก็ยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการที่จะควบคุมการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนครั้งใหม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ