ครอบครัวของพนักงาน 3 รายของบริษัทไทสัน ฟู้ดส์ ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ในโรงงานวอเตอร์ลู รัฐไอโอวา ได้ยื่นฟ้องบริษัทและผู้บริหารของไทสัน ฟู้ดส์ โดยระบุว่า บริษัทรู้ว่าสถานการณ์มีความเสี่ยง แต่โกหกพนักงานเพื่อให้ยังสามารถทำงานได้ต่อไป
คำฟ้องที่ยื่นต่อศาลแขวงในแบล็กฮอว์คเคาน์ตี รัฐไอโอวา ระบุว่า "ไทสัน ฟู้ดส์ เจตนาปล่อยข้อมูลเท็จเพื่อหลอกลวงพนักงานในโรงงานวอเตอร์ลู และชักจูงให้พวกเขาทำงานต่อไปแม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่โรงงาน และทำให้สุขภาพของพนักงานอยู่ในอันตราย"
ในคำฟ้องยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของไทสัน ฟู้ดส์ รู้ว่ามีโควิด-19 ระบาดอยู่ที่โรงงานแปรรูปเนื้อหมูวอเตอร์ลูในช่วงปลายมี.ค.หรือต้นเม.ย. แต่ปิดบังข้อมูลดังกล่าวไม่ให้พนักงานและสาธารณชนได้ทราบ เมื่อการแพร่ระบาดรุนแรงขึ้น ไทสัน ฟู้ดส์ ก็ล้มเหลวในการรักษาความปลอดภัยให้กับพนักงาน และให้พนักงานบางคนที่ป่วยหรือติดเชื้อยังคงทำงานต่อไป อีกทั้งหลอกลวงพนักงานและสาธารณชนว่าโรงงานนั้นปลอดภัย
ทางด้านนายแกรี มิกเกลสัน โฆษกของไทสัน ฟู้ดส์ได้กล่าวว่า บริษัทขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของพนักงาน พร้อมกับย้ำว่า ความสำคัญอันดับหนึ่งของบริษัทคือสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน ทางบริษัทได้ใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เป็นไปตามหรือมากกว่าข้อกำหนดของรัฐ
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ไทสัน ฟู้ดส์ ประกาศว่า ทางบริษัทได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากพนักงานในโรงงานที่เมืองเบนตัน รัฐวอชิงตัน และเมืองสปริงเดล รัฐอาร์คันซอส์ จำนวน 3,748 ราย หรือคิดเป็น 95% ของพนักงานทั้งหมดที่ทำงานอยู่ในโรงงานทั้ง 2 แห่ง และพบว่ามีพนักงานติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 481 ราย ซึ่งในจำนวนนั้นมี 455 รายเป็นการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ