ออสเตรเลียรายงานพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 จำนวน 25 รายในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือเป็นสถิติผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดของออสเตรเลีย
ขณะเดียวกัน รัฐวิกตอเรียยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 282 รายภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่ตัวเลขดังกล่าวลดลงจากช่วงปลายเดือนก.ค.ซึ่งเคยพบผู้ติดเชื้อสูงถึง 700 รายในวันเดียว
ทั้งนี้ รัฐวิกตอเรียได้ประกาศขยายเวลาการใช้มาตรการฉุกเฉินออกไปอีก 4 สัปดาห์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อภายในรัฐชะลอตัวลงก็ตาม โดยการขยายเวลาใช้มาตรการฉุกเฉินในครั้งนี้จะทำให้รัฐวิกตอเรียยังคงดำเนินการล็อกดาวน์ในระดับที่ 4 และประกาศเคอร์ฟิวในช่วงกลางคืนในเมืองเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย
มาตรการฉุกเฉินในรัฐวิกตอเรียจะถูกขยายเวลาออกไปจนถึง 23.59 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 13 ก.ย.นี้ โดยจะให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและการกักกันตัว
นอกจากนี้ มาตรการฉุกเฉินยังรวมถึงการปรับเงินตั้งแต่ 200 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (143 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับผู้ที่ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ไปจนถึง 20,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (14.3 พันดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับผู้ที่ละเมิดคำสั่งให้อยู่บ้าน