สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตือนว่า อาชญากรไซเบอร์กำลังปล่อยไวรัสเรียกค่าไถ่ หรือแรนซัมแวร์ โจมตีระบบสาธารณสุขในสหรัฐ ในขณะที่ผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศกำลังพุ่งสูงขึ้น
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา FBI และหน่วยงานรัฐบาลกลางสองหน่วยงาน ออกมาเตือนร่วมกันว่า มีข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่าอาชญากรรมไซเบอร์ที่โจมตีโรงพยาบาลและผู้ให้บริการด้านสุขภาพในสหรัฐนั้นกำลังเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลและขัดขวางบริการการดูแลสุขภาพ
ชาร์ลส์ คาร์มาคัล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ Mandiant กล่าวว่า เฉพาะในสัปดาห์นี้ พบว่ามีโรงพยาบาลอย่างน้อย 5 แห่งที่ถูกโจมตีทางไซเบอร์ และอาชญากรไซเบอร์อาจใช้แรนซัมแวร์กับโรงพยาบาลหลายร้อยแห่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ก่อนหน้านี้ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา มีการใช้แรนซัมแวร์โจมตีโรงพยาบาล 250 แห่งในเครือของยูนิเวอร์แซล เฮลท์ เซอร์วิสเซส (UHS) ในสหรัฐ ทำให้การทำงานในห้องแล็บล่าช้า และขัดขวางการทำงานของระบบต่าง ๆ ในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ในการโจมตีทางไซเบอร์โดยใช้แรนซัมแวร์นั้น อาชญากรจะเข้ารหัสข้อมูล ซึ่งจะปลดล็อกได้ก็ต่อเมื่อผู้เสียหายจ่ายเงินให้ผู้ปล่อยแรนซัมแวร์