สถาบันโรเบิร์ต คอช (RKI) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลเยอรมนีในการควบคุมโรคติดเชื้อเปิดเผยว่า เยอรมนีได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้ว 265,986 คนนับจนถึงเมื่อวานนี้ (4 ม.ค.)
ในจำนวนนี้มาจากสถานพยาบาลกว่า 114,600 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ราว 123,100 ราย โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เยอรมนีได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา
"การฉีดวัคซีนนำไปสู่ทางออกจากการแพร่ระบาด" เจนส์ สปาห์น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนีกล่าวกับหนังสือพิมพ์ Rheinische Post "เราจะฉีดวัคซีนได้มากขึ้นทีละขั้นตอน และเราก็จะกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น"
ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ระบุว่า เยอรมนีมีผู้ป่วยโควิด-19 รวมกันเกือบ 1.8 ล้านราย และเสียชีวิตไปประมาณ 35,000 ราย
รัฐบาลเยอรมนีได้เน้นย้ำว่า วัคซีนจะมีให้ใช้น้อยมากในช่วงแรกๆ และเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญถึงที่สุด โดยพลเมืองที่มีอายุเกิน 80 ปี รวมถึงบุคลากรและผู้ที่อยู่ในสถานดูแลคนชราและสถานพยาบาล เป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ฉีดวัคซีน
เยอรมนีได้รับวัคซีนล็อตแรก 1.3 ล้านโดสเมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลมีแผนที่จะแจกจ่ายวัคซีนสัปดาห์ละ 670,000 โดสนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เยอรมนีได้ประกาศล็อกดาวน์ทั้งประเทศอยู่เดิมแล้วเพราะมีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยมีมาตรการควบคุมการติดต่อสัมผัสอย่างเข้มงวด ทั้งยังสั่งปิดบาร์ ร้านอาหาร และสถานบันเทิงต่างๆ จนถึงวันที่ 10 ม.ค.
นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และผู้นำรัฐต่างๆ ของเยอรมนี จะประชุมกันในวันนี้เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ