ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในสหรัฐ ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อคิดเป็น 1 ใน 5 ของยอดผู้ติดเชื้อในขณะนี้
ดร.วาเลนสกีกล่าวในที่ประชุม Milken Institute Future of Health Summit เมื่อวันพุธ (23 มิ.ย.) ว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลตามีการระบาดอย่างรวดเร็ว หลังจากที่สัดส่วนของผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้อยู่ที่เพียง 3% เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน
CDC ยังคาดว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลตามีแนวโน้มที่จะเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักอันดับสองที่ระบาดในสหรัฐ ตลอดช่วงสองสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 19 มิ.ย. ขณะเดียวกันไวรัสชนิดนี้ได้กลายเป็นไวรัสสายพันธุ์หลักของการระบาดในบางภูมิภาคแล้ว
จำนวนผู้ติดเชื้อที่ดร.วาเลนสกีกล่าวถึงนั้นสอดคล้องกับข้อมูลล่าสุดอีกชุดหนึ่ง ซึ่งระบุว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวกำลังจะแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในสหรัฐ
ทางด้านเฮลิกซ์ (Helix) บริษัทด้านการตรวจวิเคราะห์พันธุกรรมได้ศึกษาตัวอย่างการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 2,000 ตัวอย่าง ซึ่งรวบรวมจากเคาน์ตีต่างๆ ของสหรัฐกว่า 700 แห่ง โดยพบว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลตามีแนวโน้มแพร่กระจายได้รวดเร็วขึ้นในเคาน์ตีซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ
"ไวรัสสายพันธุ์เดลตาไม่เพียงแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่นๆ แต่ยังสร้างความกังวลว่า อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงขึ้นด้วย" ดร.วาเลนสกีกล่าว
นอกจากนี้ ดร.วาเลนสกียังระบุว่า ข้อมูลบ่งชี้ว่าวัคซีนชนิด mRNA ที่ผลิตโดยวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา น่าจะป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้ดี ขณะที่ CDC กำลังตรวจสอบประสิทธิภาพของวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันในการยับยั้งไวรัสสายพันธุ์เดลตา