บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยในวันนี้ว่า ทางบริษัทได้จัดส่งวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 1.2 ล้านโดสให้แก่เวียดนามในวันนี้
การจัดส่งวัคซีนดังกล่าว ทำให้เวียดนามได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ารวมแล้วจำนวน 8.6 ล้านโดส คิดเป็น 76% ของจำนวนวัคซีนทั้งประเทศ
ทางด้านทำเนียบขาวแถลงว่า รัฐบาลสหรัฐจะบริจาควัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาจำนวน 3 ล้านโดสให้แก่เวียดนามในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่เวียดนามกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่
ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวจะถึงเวียดนามในวันที่ 25 ก.ค. โดยเป็นส่วนหนึ่งของวัคซีนที่สหรัฐบริจาคให้แก่โครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลก และจะทำให้เวียดนามได้รับวัคซีนที่มีการบริจาคจากสหรัฐรวม 5 ล้านโดส
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศว่า สหรัฐจะบริจาควัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 80 ล้านโดสให้แก่ประเทศต่างๆทั่วโลก
นอกจากนี้ สหรัฐยังเตรียมซื้อวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 500 ล้านโดสเพื่อบริจาคแก่ประเทศในแอฟริกา รวมทั้งประเทศยากจนที่มีรายได้ต่ำและปานกลางจำนวน 92 ประเทศทั่วโลก
ขณะนี้ เวียดนามได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 รวมแล้วมากกว่า 10 ล้านโดส โดยเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 8.6 ล้านโดส, โมเดอร์นา 2 ล้านโดส และไฟเซอร์ 194,200 โดส
ขณะเดียวกัน เวียดนามได้ลงนามในสัญญาซื้อวัคซีนเพิ่มเติมอีก 105 ล้านโดส และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาซื้ออีก 70 ล้านโดส ทำให้เวียดนามจะได้รับวัคซีนอีกรวม 175 ล้านโดสในปีนี้และต้นปีหน้า
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามแถลงวานนี้ว่า เวียดนามกำลังเจรจากับสหรัฐเพื่อให้มีการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ชนิด mRNA ในเวียดนาม โดยการผลิตวัคซีนดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในไตรมาส 4 ของปีนี้ หรือช่วงต้นปีหน้า
กระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้เวียดนามสามารถผลิตวัคซีน mRNA จำนวน 100-200 ล้านโดสต่อปี
อย่างไรก็ดี กระทรวงไม่ได้เปิดเผยว่า เวียดนามกำลังเจรจากับบริษัทใดในสหรัฐ แต่เป็นที่รู้กันว่า บริษัทสหรัฐที่ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 โดยใช้เทคโนโลยี mRNA ได้แก่ บริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยในเดือนพ.ค.ว่า WHO กำลังพิจารณาข้อเสนอของบริษัทเวียดนามแห่งหนึ่งในการเป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งใช้เทคโนโลยี mRNA
ขณะเดียวกัน VABIOTECH ซึ่งเป็นบริษัทยาของเวียดนาม และ RDIF ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัสเซีย และเป็นผู้ให้การสนับสนุนการผลิตวัคซีน Sputnik V ซึ่งเป็นวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของรัสเซีย ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า เวียดนามสามารถผลิตวัคซีน Sputnik V รุ่นทดลองได้แล้ว
ทั้งนี้ ตัวอย่างจากวัคซีนดังกล่าวจะถูกส่งไปยังสถาบันกามาเลยาของรัสเซียเพื่อทำการตรวจสอบคุณภาพ
"RDIF และ VABIOTECH กำลังร่วมมือกันในการถ่ายโอนเทคโนโลยีในการผลิตวัคซีนเพื่อให้ชาวเวียดนามสามารถเข้าถึงวัคซีน Sputnik V" นายคิริล ดมิเทรียฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ RDIF ระบุในแถลงการณ์
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามแถลงก่อนหน้านี้ว่า VABIOTECH จะทำการบรรจุขวดและบรรจุภัณฑ์ให้กับวัคซีน Sputnik V โดยเริ่มตั้งแต่เดือนนี้ โดยมีกำลังการผลิต 5 ล้านโดสต่อเดือน
นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามให้การอนุมัติ T&T ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนของเวียดนาม ทำการเจรจาเพื่อซื้อวัคซีน Sputnik V จำนวน 40 ล้านโดส
ทั้งนี้ วัคซีน Sputnik V มีการผลิตโดยใช้เทคโนโลยี viral vectors และเป็นหนึ่งในวัคซีนที่มีราคาถูกที่สุดในโลก โดยมีราคาไม่ถึง 10 ดอลลาร์ต่อโดส และสามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิตู้เย็นทั่วไปที่ระดับ 2-8 เซลเซียส