ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในวันเดียวแตะระดับ 1,900 เป็นครั้งแรกในวันนี้ (10 ก.ย.) เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ยังคงพบอยู่มากในเมืองซิดนีย์และเมลเบิร์น แม้ขณะนี้จะอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ก็ตาม
รายงานข่าวระบุว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของประเทศ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1,542 ราย ทำลายสถิติเมื่อสัปดาห์ก่อนซึ่งอยู่ที่ 1,533 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 9 ราย
"เราได้คาดการณ์ถึงแนวโน้มเช่นนี้มาก่อนแล้ว" นางแกลดิส เบรีจิเกลียน ผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่นครซิดนีย์ เมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์
นางเบรีจิเกลียนระบุด้วยว่า การแถลงข่าวสถานการณ์โควิดประจำวันจะยกเลิกตั้งแต่วันจันทร์นี้เป็นต้นไป โดยจะรายงานสถานการณ์ออนไลน์ทางวิดีโอแทน
ปัจจุบัน ออสเตรเลียเผชิญการระบาดของโควิดเป็นรอบที่ 3 โดยมีไวรัสสายพันธุ์เดลตาเป็นสายพันธุ์หลัก ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องเปลี่ยนกลยุทธ์จากการลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้เป็นศูนย์ (Covid-zero strategy) มาเป็นการมุ่งสกัดการแพร่ระบาดแทน
ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียตั้งเป้าผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด เมื่อประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบสองโดสมากขึ้น
แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดอีกรอบ รัฐนิวเซาท์เวลส์ก็ได้ประกาศวานนี้ว่า ธุรกิจในเมืองซิดนีย์อาจกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้ง เมื่อประชากรกลุ่มวัยผู้ใหญ่ในรัฐฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วถึง 70% ซึ่งคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายในเดือนต.ค.นี้ ส่วนในปัจจุบัน ประชาชนที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปในรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว 76% และฉีดวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้ว 44%