หนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานผลการศึกษาฉบับใหม่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 พ.ย.) โดยระบุว่า กวางหางขาวจำนวนมากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรัฐไอโอวา เขตมิดเวสต์ของสหรัฐ
ผลการศึกษาดังกล่าวระบุว่า มีกวางหางขาวติดโควิดถึง 80% ของจำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 - ม.ค. 2564 ในรัฐไอโอวา โดยนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานภายนอกอธิบายว่า เป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงในช่วงการระบาด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การศึกษาดังกล่าวยังระบุอีกว่า กวางหางขาวที่ติดเชื้อเป็นจำนวนมากอาจทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิดเป็นไปได้ยากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันกลายเป็นพาหะเชื้อกลายพันธุ์ที่จะนำกลับมาติดมนุษย์ในที่สุด
ก่อนหน้านี้ในปีนี้ สำนักงานบริการตรวจสุขภาพสัตว์และพืชในสังกัดกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ได้ทำการสำรวจกวางหางขาวในหลายรัฐของสหรัฐ พบว่ากวางจำนวนน้อยกว่าครึ่งใน 4 รัฐมีแอนติบอดีต้านโควิด แต่การสำรวจดังกล่าวเป็นการยืนยันการพบเชื้อเท่านั้น ไม่ได้ยืนยันการติดโรค
อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาฉบับใหม่นี้ได้ตรวจสอบต่อมน้ำเหลืองของกวางหางขาวจากกลุ่มตัวอย่างที่ถูกรถชนและที่ถูกฆ่าโดยนักล่าสัตว์ พบว่ามีการติดโรคโควิด-19 จริง ผลการศึกษานี้ยังไม่ได้มีการตีพิมพ์ลงในวารสารทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการตรวจผลงานโดยผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ แต่คณะผู้เขียนผลการศึกษาดังกล่าวจากมหาวิทยาลัย Penn State University และเจ้าหน้าที่คุ้มครองสัตว์ป่าในรัฐไอโอวาพบว่าผลการศึกษานี้เป็นที่น่ากังวล จึงแจ้งเตือนให้นักล่ากวางและผู้ดูแลกวางระมัดระวังไม่ให้ติดเชื้อ