นายออง เย คุง รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์ออกแถลงข่าวในวันนี้ว่า การกลับไปควบคุมโควิด-19 แบบเข้มงวดถือเป็น "ตัวเลือกสุดท้าย" ขณะที่สิงคโปร์ผ่อนปรนการจำกัดการรวมกลุ่มทางสังคมและการรับประทานอาหารนอกบ้านบางส่วนภายใต้แผนการดำเนินการเพื่อเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
นายอองยังกล่าวด้วยว่า สิงคโปร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางระหว่างประเทศและการท่องเที่ยว จะเดินหน้าผนึกกำลังกับประเทศต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นเพื่อเปิดโครงการการเดินทางสำหรับบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
ขณะนี้สิงคโปร์เริ่มอนุญาตให้ประชาชนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ได้รับวัคซีนแล้วมีอิสรภาพมากขึ้น รวมไปถึงอนุญาตให้จัดงานพบปะทางธุรกิจอีกครั้ง และยกเว้นการกักตัวให้กับประชาชนที่เดินทางมาจากบางประเทศ ขณะเดียวกัน รัฐบาลสิงคโปร์ก็ยกระดับโครงการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ในประเทศไปควบคู่กันไปด้วย
ทั้งนี้ นายอองระบุว่า "ผมรู้สึกว่าการดำเนินการเช่นนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยลดโอกาสที่เราจะกลับไปใช้มาตรการคุมเข้มถี่จนเกินไป"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สิงคโปร์ซึ่งมีประชากร 5.45 ล้านคน ได้ปรับเปลี่ยนมาตรการกลับไปกลับมาระหว่างการคุมเข้มและการผ่อนปรนมาตรการจำกัดตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากสิงคโปร์ต้องเผชิญกับโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในระลอกใหม่อันเป็นผลพวงของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ นายอองยังได้เปิดเผยว่า การวางกรอบเวลาว่าสิงคโปร์จะเข้าสู่ภาวะ "ปกติใหม่" ได้เมื่อใดนั้นเป็นเรื่องที่ยากเกินไป แต่เขาคาดหวังว่า อัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูงของประเทศและการส่งเสริมการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ในปัจจุบัน จะเป็นปัจจัยหนุนนำให้สิงคโปร์สามารถผ่อนปรนมาตรการจำกัดได้อย่างต่อเนื่อง