ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะเดินทางเยือนเมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัสในวันอาทิตย์นี้ (29 พ.ค.) หลังเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งจนเป็นเหตุให้นักเรียน 19 รายและครูอีก 2 รายเสียชีวิต
ทำเนียบขาวประกาศว่า ปธน.ไบเดนและนางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง มีแผนจะเข้าร่วมไว้อาลัยกับชุมชนที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป 21 ชีวิตในเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถม
คนร้ายที่ก่อเหตุกราดยิงซึ่งชื่อซัลวาดอร์ โรแลนโด รามอส วัย 18 ปี และเป็นนักเรียนของโรงเรียนยูวัลดี ไฮ สคูลนั้น ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต โดยผู้ก่อเหตุได้ใช้ปืนไรเฟิล AR จำนวน 2 กระบอกในการก่อเหตุ ซึ่งปืนทั้ง 2 กระบอกถูกซื้อมาอย่างถูกกฎหมาย
"ความคิดที่ให้เด็กอายุ 18 ปีสามารถเดินเข้าไปในร้านขายปืนและซื้อปืนไรเฟิลจู่โจม 2 กระบอกได้นั้นมันผิดพลาด" ปธน.ไบเดนกล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อคืนวันอังคาร (24 พ.ค.)
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังเรียกร้องให้กลุ่มล็อบบี้เกี่ยวกับอาวุธปืนในสหรัฐ และสภาคองเกรสอนุมัติกฎหมายควบคุมอาวุธปืน หลังจากเกิดเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนเพิ่มสูงขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันได้ส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะจะหารือกับพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับกฎหมายอาวุธปืนที่หยุดชะงักมานานในสภาสหรัฐ
ขณะเดียวกัน นักเรียนทั่วสหรัฐได้พากันหยุดเรียนในวันพฤหัสบดี (26 พ.ค.) เพื่อประท้วงเหตุรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนและการเพิกเฉยของนักการเมือง โดยในโรดไอแลนด์นั้น เทียรา แม็ก สมาชิกสภานิติบัญญัติทวีตข้อความว่า นักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ ในเมืองพรอวิเดนซ์ได้รวมตัวกันประท้วงด้วยการล้มตัวลงนอนนอกทำเนียบรัฐบาลของโรดไอแลนด์เป็นเวลา 3 นาที