บริษัทโมเดอร์นา อิงค์เปิดเผยเมื่อวันพุธ (22 มิ.ย.) ว่า วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนนั้น สามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งในการป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ วัคซีนที่ปรับปรุงใหม่ดังกล่าวซึ่งโมเดอร์นาหวังว่าจะได้รับการอนุมัติให้ใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นในฤดูใบไม้ร่วงนั้น เป็นวัคซีนชนิดไบวาเลนต์ (bivalent vaccine) ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 สองสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งได้แก่สายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบในปี 2563 และสายพันธุ์โอมิครอนซึ่งแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา
โมเดอร์นาระบุว่า ขณะที่วัคซีนที่ปรับปรุงใหม่ดังกล่าวสร้างการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันในการต้านไวรัสสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ได้อ่อนแอกว่าการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ BA.1 แต่ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์ย่อยดังกล่าว ซึ่งข้อมูลบ่งชี้ว่า วัคซีนรุ่นใหม่นี้สามารถป้องกันไวรัสตระกูลโอมิครอนทั้งหมดได้ยาวนานขึ้น
นายพอล เบอร์ตัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของโมเดอร์นาเปิดเผยในการแถลงข่าวว่า "เป็นการตอบสนองของแอนติบอดีที่แข็งแกร่งและทรงพลัง" และการปกป้องอาจจะอยู่ได้ยาวนาน ผมคิดว่า ข้อสรุปก็คือ การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือการฉีดวัคซีนเบื้องต้นด้วยวัคซีนรุ่นใหม่นี้ อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้ของเราต่อไวรัสโควิด-19"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โมเดอร์นาได้ทำการผลิตวัคซีนรุ่นใหม่ดังกล่าวก่อนที่จะมีการอนุมัติด้านกฎระเบียบ โดยนายสเตฟาน บันเซล ซีอีโอของโมเดอร์นากล่าวว่า บริษัทอาจเริ่มจัดส่งวัคซีนรุ่นใหม่ดังกล่าวได้ในเดือนส.ค.นี้
ทั้งนี้ ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ โมเดอร์นาวางแผนที่จะยื่นขออนุมัติต่อหน่วยงานด้านกฎระเบียบของสหรัฐ เพื่อใช้วัคซีนดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า mRNA-1273.214 ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ (ก.ย.-พ.ย.)