"สี จิ้นผิง" เผยโควิดในจีนอันตรายน้อยลง เพิ่มความหวังยกเลิกซีโร่โควิด

ข่าวต่างประเทศ Saturday December 3, 2022 09:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้กล่าวกับนายชาร์ลส มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรปในการประชุมที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพฤหัสบดี (1 ธ.ค.) ว่า สายพันธุ์โอมิครอนที่มีอันตรายน้อยลงนั้นเป็นสายพันธุ์ของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอยู่ในจีนในขณะนี้

เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวเปิดเผยว่า ปธน.สีได้ระบุว่า โอมิครอนซึ่งเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์ล่าสุดที่กำลังระบาดในจีนนั้นไม่เหมือนกับสายพันธุ์เดลตาที่มีอันตรายมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ปธน.สีไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนกับนายมิเชลเกี่ยวกับแผนการของรัฐบาลจีนที่จะผ่อนคลายมาตรการควบคุมไวรัสดังกล่าว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หากความเห็นนั้นได้รับการยืนยัน ก็จะถือเป็นครั้งแรกที่ปธน.สียอมรับต่อสาธารณะว่า ไวรัสโควิด-19 กำลังอ่อนแอลง และบ่งชี้ว่า ผู้นำจีนอาจเดินหน้าผ่อนคลายความเข้มงวดของนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero) ลงอีก หลังจากที่บังคับใช้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

เมื่อวันพุธ (30 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนซึ่งรับผิดชอบในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 เปิดเผยว่า ความพยายามที่จะต่อสู้กับไวรัสได้เข้าสู่เฟสใหม่ซึ่งเป็นการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนในขณะที่ชาวจีนได้รับวัคซีนมากขึ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า จีนอาจจะหาทางปรับกลยุทธ์ในการควบคุมโรคระบาดดังกล่าว

ขณะนี้กรุงปักกิ่งจะอนุญาตให้ประชาชนที่ติดเชื้อกักตัวอยู่ที่บ้านได้ โดยเริ่มจากเขตที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรถประจำทางและรถไฟใต้ดินในกรุงปักกิ่งก็ได้ถูกเตือนไม่ให้ปฏิเสธผู้โดยสาร และไม่ต้องมีการแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงอีกต่อไป

นายหลิว เพงหยู โฆษกสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันของสหรัฐเปิดเผยว่า สถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมระหว่างปธน.สีและนายมิเชลมากไปกว่าข้อมูลที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ และข้อมูลนั้นก็ไม่ได้ระบุว่า ปธน.สีได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน

ด้านนายกาเบรียล วิลเดา กรรมการผู้จัดการของเทเนโอ โฮลดิงส์ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาในนิวยอร์กระบุว่า "ดูเหมือนเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่า จีนกำลังวางแผนที่จะยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์"

"สำหรับปธน.สีและผู้นำคนอื่น ๆ ของพรรคคอมมิวนิสต์นั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งสัญญาณทั้งในประเทศและต่างประเทศว่า การเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายโควิดนั้นจะอยู่บนพื้นฐานของการพิจารณาด้านสาธารณสุข ไม่ใช่จากแรงกดดันทางการเมืองที่เกิดจากการประท้วงของประชาชนตามท้องถนน"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ