ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศเมียนมา เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 113 ราย และ 64 คนยังคงสูญหาย ขณะที่ประชาชนอย่างน้อย 320,000 คนต้องอพยพออกจากถิ่นฐานบ้านเรือนเพื่อหนีภัยน้ำท่วมหลังเกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นยางิ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวี (MRTV) ของรัฐบาลเมียนมา รายงานคำกล่าวของโฆษกรัฐบาล ซอ มิน ตุน เมื่อคืนวันอาทิตย์ (15 ก.ย.) ว่า "รัฐบาลกำลังดำเนินภารกิจกู้ภัยและฟื้นฟู" พร้อมเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดดังกล่าว ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 74 รายในวันศุกร์
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ระบุว่า ฝนที่ตกหนักส่งผลกระทบต่อกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงเป็นหลัก รวมไปถึงมัณฑะเลย์ มะกเว และพะโค ตลอดจนรัฐฉาน รัฐมอญ รัฐกะยา และรัฐกะเหรี่ยงทางตะวันออกและทางใต้
รายงานข่าวระบุว่า น้ำท่วมในเมียนมาเริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ก.ย. ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายอันเนื่องมาจากพายุไต้ฝุ่นยางิ ซึ่งเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มเอเชียในปีนี้ คร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยคนในเวียดนามและไทย นอกจากนี้ แม่น้ำที่เอ่อล้นยังได้ไหล่บ่าท่วมเมืองต่าง ๆ ในทั้งสองประเทศด้วย