In Focusการกลับมาของ"ฮวน กุยโด"ผู้นำฝ่ายค้านจะช่วยคลี่คลายวิกฤตการเมืองเวเนซุเอลาได้หรือไม่

ข่าวต่างประเทศ Wednesday March 6, 2019 15:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

"พี่น้องชาวเวเนซุเอลา วินาทีที่คุณได้ยินข้อความนี้ นั่นคือผมกำลังเดินทางกลับบ้าน" ข้อความเสียงจากทวิตเตอร์ของนายฮวน กุยโด ที่เป็นเสมือนแสงนำทางให้กับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาออกมารวมตัวกัน เพื่อโค่นล้มนายมาดูโร

เหตุใดการประกาศเดินทางกลับเข้าประเทศของฮวน กุยโด จึงเรียกให้ประชาชนผู้สนับสนุนหลายพันคนออกมารอต้อนรับ "ฮวน กุยโด" คือใคร และการกลับมาครั้งนี้จะมีผลอย่างไรต่อสถานการณ์ทางการเมืองในเวเนซุเอลา ซึ่งปัจจุบันกำลังระส่ำระสายอย่างหนัก อีกทั้งยังถูกกดดันจากปัจจัยภายในประเทศและนอกประเทศ In Focus สัปดาห์นี้ จะขอสรุปเหตุการณ์และสถานการณ์ในเวเนซุเอลาพอสังเขปก่อนที่การเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่ในวันเสาร์หน้าจะเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง

"ฮวน กุยโด" จากนักศึกษาวิศวกรรมถึงประธานาธิบดีเฉพาะกาลผู้ได้รับการยอมรับจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
นายฮวน กุยโด เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ประธานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และผู้ประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลของเวเนซุเอลา วัย 35 ปี จบปริญญาในสาขาวิศวกรรมอุตสาหการจากมหาวิทยาลัย Andres Bello Catholic University และได้รับใบปริญญาด้านการบริหารรัฐกิจอีก 2 ใบ จากมหาวิทยาลัย George Washington University ในสหรัฐ และ Instituto de Estudios Superiores de Administracion ในกรุงคาราคัส
ปี 2550 เมื่อครั้งที่อดีตประธานาธิบดีฮูโก ซาเวซ กล่าวหาว่าสถานี Radio Caracas Television (RCTV) ละเมิดกฎหมายการออกอากาศ และปฏิเสธที่จะต่อใบอนุญาตพร้อมให้สถานีโทรทัศน์ของรัฐมาแพร่ภาพออกอากาศแทนนั้น นายกุยโดเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ประท้วงการควบคุมสื่อ
ปี 2552 นายฮวน กุยโด ร่วมกับนายลีโอโปลโด โลเปซ ได้ร่วมก่อตั้งพรรค Popular Will ซึ่งปฏิญาณว่า จะสร้างประเทศที่ปลอดภัย เป็นหนึ่ง และเจริญรุ่งเรืองกว่าเดิม ประเทศที่ทุกคนจะเข้าถึงสิทธิ์ได้อย่างครบถ้วน
ปี 2554 พรรค Popular Will ได้กลายเป็นพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการ และนายกุยโดได้รับตำแหน่งเป็นตัวแทนสำรองของรัฐวากาสประจำสภานิติบัญญัติแห่งชาติระหว่างปี 2554-2558 ก่อนที่จะได้เป็นตัวแทนรัฐวากาสอย่างเต็มตัวในปี 2559
ปี 2558 นายกุยโดเป็นหนึ่งในกลุ่มส.ส.ที่ร่วมอดอาหารประท้วงการเลือกตั้งทั่วไป
เมื่อเดือนธ.ค. 2561 ในช่วงการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของนายมาดูโร สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้เลือกให้นายกุยโดเป็นประธานคนใหม่ แม้พรรค Popolar Will จะได้ที่นั่งเพียง 14 จาก 167 ที่นั่ง และหลังจากเข้ารับตำแหน่ง นายกุยโดได้สร้างความเป็นหนึ่งเดียวให้กับพรรคฝ่ายค้านที่แตกแยกเพื่อต่อต้านการปกครองของนายมาดูโร

เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2562 หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติประกาศว่า การเลือกตั้งเมื่อกลางปีที่แล้วไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ประธานาธิบดีมาดูโรเป็นผู้ปล้นอำนาจ ทำให้นายฮวน กุยโด ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ออกมาประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลต่อหน้ากลุ่มผู้สนับสนุนที่มารวมตัวกัน ก่อนที่จะมีการตอบรับจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกที่ให้การยอมรับนายกุยโดเป็นประธานาธิบดีเวเนซุเอลา

วันที่ 30 ม.ค. 2562 ศาลสูงเวเนซุเอลาได้ออกคำสั่งห้ามนายฮวน กุยโด เดินทางออกนอกประเทศ พร้อมมีคำสั่งให้อาญัติทรัพย์สินของนายกุยโดไว้

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา นายกุยโดได้ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศของศาลเวเนซุเอลาและออกเดินทางไปยังโคลอมเบียเพื่อสานต่อความพยายามที่จะส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้ามายังเวเนซุเอลา เพื่อบรรเทาภาวะขาดแคลนอาหารและยารักษาโรคในประเทศ จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังประเทศพันธมิตรในแถบลาตินอเมริกาเพื่อร้องขอการสนับสนุนการรณรงค์ขับไล่นายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา เพื่อจัดการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม และเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกุยโดได้ประกาศการเดินทางกลับประเทศผ่านทางทวิตเตอร์ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง ทั้งประชาชนผู้สนับสนุนนายกุยโดที่พร้อมต้อนรับการกลับมาของปธน.ชั่วคราว ผู้ซึ่งยืนยันที่จะให้ปธน.มาดูโรลาออกจากตำแหน่ง รวมถึงจากนานาประเทศที่จับตามองสถานการณ์ในเวเนซุเอลาอย่างใกล้ชิด

ประชาคมโลกกำลังจับตาดู พร้อมหนุนหลัง"ฮวน กุยโด"

นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐกล่าวในทวิตเตอร์ว่า ถ้ามีการข่มขู่หรือการกระทำที่เป็นภัยต่อการเดินทางกลับประเทศอย่างปลอดภัยของนายกุยโด เวเนซุเอลาจะเผชิญกับการตอบโต้อย่างรุนแรงจากสหรัฐและประชาคมโลก

ขณะที่นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวในทวิตเตอร์ว่า การเดินทางกลับเข้าประเทศอย่างปลอดภัยของนายฮวน กุยโดนั้น ถือเป็นความสำคัญอันดับแรกของสหรัฐ เราจะไม่ยอมรับการคุกคาม ข่มขู่ หรือใช้ความรุนแรงกับนายกุยโด และจะตอบโต้ในทันที

นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและกลุ่มประเทศที่รักเสรีทั่วโลกจะยืนเคียงข้างนายฮวน กุยโด ประธานาธิบดีเฉพาะกาล ผู้นำฝ่ายค้าน และกลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตยทุกคนที่กำลังเดินหน้าเพื่อการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม ที่จะคืนประชาธิปไตยกลับสู่เวเนซุเอลา

นางเฟเดอริกา โมเกรินี หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า มาตรการใดๆ ที่เป็นภัยต่ออิสรภาพ ความปลอดภัย หรือความน่าเชื่อถือของนายกุยโดจะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างมาก

ส่วนนักการทูตจาก Lima Group เป็นองค์กรพหุภาคีที่จัดตั้งขึ้นในเดือนส.ค. 2560 เพื่อจับตาสถานการณ์ของเวเนซุเอลา โดยสมาชิกประกอบด้วยประเทศลาตินอเมริกา 13 ประเทศ และแคนาดาได้ออกมาระบุว่า ถ้ามีการใช้ความรุนแรงใดๆ กับนายกุยโด ภรรยา หรือครอบครัวของเขา เวเนซุเอลาจะต้องพบกับกลไกทางกฎหมายและการเมืองทุกรูปแบบ

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของนายกุยโด
หลังจากลงเครื่องที่สนามบิน นายกุยโดกล่าวว่าได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองถึงกับทักทายเขาด้วยคำว่า "ยินดีต้อนรับครับท่านประธานาธิบดี"
นายกุยโด กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นหลักฐานชัดเจนว่า มีหลายฝ่ายที่ไม่ทำตามคำขู่ของรัฐบาล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสายคำสั่งในหน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาลนั้นพังทลายลงแล้ว
นอกจากนี้ ที่สนามบินยังมีผู้สนับสนุนนายกุยโดหลายพันคนที่มารอต้อนรับ พร้อมตะโกนร้องเรียกชื่อนายกุยโดและตะโกนว่า "ใช่ เราทำได้"

นายกุยโดกล่าวกับผู้สนับสนุนว่า เราอยู่ที่นี่ในเวเนซุเอลา เราแข็งแกร่งกว่าที่เคย เราจะเดินหน้ายุติการยึดอำนาจในเวเนซุเอลาในอีกไม่ช้า พวกเขาขู่จะจับผมเข้าคุก หรือฆ่าผม มันจะไม่ใช่การกลั่นแกล้งหรือข่มขู่ เพราะพวกเขาจะจับเราขังคุก ความหวังได้ก่อกำเนิดขึ้น และมันจะไม่ตายจากไป สถานการณ์ต่างๆ จะเป็นไปด้วยดี วันนี้เราจะฉลองชัยชนะเล็กๆ ครั้งนี้กัน

นายกุยโดยังเรียกร้องให้ชาวเวเนซุเอลาออกมาเดินขบวนประท้วงทั่วประเทศในวันเสาร์ที่จะถึงนี้เพื่อทวงถามอิสรภาพ และจะไม่หยุดพักจนกว่าจะสำเร็จ

นอกจากนี้ นายกุยโดยังได้กล่าวยกย่องเหล่าผู้ที่เสียชีวิตบริเวณชายแดนบราซิล-เวเนซุเอลา หลังกองทัพเวเนซุเอลาพยายามที่จะปิดกั้นขบวนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหรัฐที่จะส่งเข้าไปยังเวเนซุเอลา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายกุยโดได้เจรจากับสหภาพแรงงานภาครัฐให้นัดหยุดงานประท้วง เพื่อช่วยสนับสนุนการโค่นล้มรัฐบาล

ทั้งนี้ วิลล์ แกรนท์ ผู้สื่อข่าวจากบีบีซีกล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ผู้สนับสนุนนายกุยโดมีความยินดี ไม่ใช่แค่เพราะนายกุยโดกลับมายังเวเนซุเอลา แต่เป็นเพราะแทนที่จะลักลอบเข้าประเทศทางชายแดนในช่วงกลางคืน แต่นายกุยโดเลือกที่จะกลับเข้ามาผ่านทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินในกรุงคาราคัส

ทางด้าน ฮาโรลด์ ทรินคูนาส ผู้เชี่ยวชาญด้านลาตินอเมริกาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าวว่า การกลับมายังเวลาซุเอลา "ทางประตูหน้า" ของนายกุโดเป็นการท้าทายให้ประธานาธิบดีมาดูโรจับกุมตัวเขา และการที่ประธานาธิบดีมาดูโรไม่ทำเช่นนั้น ทำให้ภาพพจน์ของประธานาธิบดีมาดูโร"ดูอ่อนแอ" นอกจากนี้ การที่นายกุยโดสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศได้โดยไม่ถูกขัดขวางยังอาจเป็นการแสดงให้เห็นด้วยว่าประธานาธิบดีมาดูโรสูญเสียการสนับสนุนจากหน่วยงานความมั่นคงของเวเนซุเอลาแล้ว

ท่าทีของประธานาธิบดีมาดูโร

ปธน.มาดูโรได้ออกมาตอบโต้นายกุยโด โดยในวันฉลองครบรอบ 6 ปีการเสียชีวิตของนายฮูโก ซาเวซ อดีตประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ปธน.มาดูโรกล่าวว่า ขณะที่คนกลุ่มน้อยกำลังบ้าคลั่ง เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ขมขื่น แต่นั่นมันปัญหาของพวกเขา เราไม่สนใจ เราจะหยุดเส้นทางพวกเขา งานของพวกเขา และพวกสหภาพ ปล่อยให้พวกเขาจมอยู่กับความขมขื่นต่อไป เราจะจัดการพวกเขา เราจะทำเพื่อซาเวซ เราจะทำเพื่อประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ

นอกจากนี้ ปธน.มาดูโรยังเรียกร้องให้กลุ่มต่อต้านจักรวรรดินิยมออกมาเดินขบวนประท้วงในวันเสาร์ เช่นเดียวกับกลุ่มประท้วงของนายกุยโด

สถานการณ์ล่าสุดในเวเนซุเอลา

ปัจจุบันเวเนซุเอลากำลังเผชิญปัญหามากมาย ทั้งเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ สกุลเงินโบลิวาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างมาก อาชญากรรมและอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค ซึ่งส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา มีประชาชนเวเนซุเอลากว่า 3 ล้านคนได้ลี้ภัยออกนอกประเทศ

นอกจากนี้ เวเนซุเอลายังเผชิญวิกฤติทางการเมือง หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติประกาศว่า การเลือกตั้งเมื่อกลางปีที่แล้วไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ประธานาธิบดีมาดูโรเป็นผู้ปล้นอำนาจ ทำให้นายฮวน กุยโด ประธานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีรักษาการ เมื่อวันที่ 23 ม.ค.

การประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีรักษาการของนายกุยโดครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทว่าไม่ใช่ในเวเนซุเอลา ทางกองทัพเวเนซุเอลายังคงยืนยันความภักดีต่อประธานาธิบดีมาดูโร ขณะที่ศาลสูงสุดของเวเนซุเอลาได้มีคำสั่งห้ามไม่ให้นายกุยโดเดินทางออกนอกประเทศ พร้อมสั่งอายัดทรัพย์สินนายกุยโด

แต่แม้จะมีเสียงกดดันจากนานาชาติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ปธน.นิโคลัส มาดูโร ยังคงยืนกรานไม่ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกล่าวหาผู้กลุ่มผู้เรียกร้องว่าต้องการทำรัฐประหาร และตนเองยังได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอยู่

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองโคลอมเบีย ทหารกว่า 500 คนได้หนีทหารในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงมีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งได้ส่งลูก 2 คนไปยังฮ่องกงซึ่งแสดงถึงความกังวลที่เริ่มคุกรุ่นขึ้นแล้ว

นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายแองเจล อัลวาราโด สมาชิกพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ได้ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ได้นำทองคำสำรองราว 8 ตันออกจากห้องนิรภัยของธนาคารกลางเวเนซุเอลา เนื่องจากต้องขายทองคำสำรองเพื่อหารายได้เข้ารัฐ หลังถูกสหรัฐคว่ำบาตรการขายน้ำมัน

สถานการณ์ในเวเนซุเอลานั้นยังคงตึงเครียด และอาจเลวร้ายลงอีกหากในวันเสาร์ที่จะถึงนี้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมของทั้งสองฝ่ายที่มีความเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบางท่านเชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายอาจจะเจรจาเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ แต่ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม ทาง In Focus ก็ได้แต่หวังว่า วิกฤติในเวเนซุเอลาจะคลี่คลายลงในเร็ววันโดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ