ภาวะตลาดอนุพันธ์: ดิ่งรับข่าวทรัมป์ติดโควิดส่งภาพการเมืองสหรัฐไม่แน่นอน ลุ้นมาตรกระตุ้นศก.หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 2, 2020 18:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ปรับตัวลดลงและลงมาทดสอบที่ระดับ 770 จุดจากประเด็นนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐและภรรยา ติด เชื้อโควิด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุน และนโยบาย เพราะผู้นำประเทศขนาดใหญ่ติดโควิดภาพดูไม่ดี และคงต้องติดตามดุว่ามี ความคืบหน้าอย่างไร การดีเบตรอบต่อไปจะเกิดขึ้นหรือไม่ หลังจากรอบล่าสุดไม่มีอะไรตื่นเต้น โดยคะแนนเสียงนายโจ ไบแดน นำนาย ทรัมป์

อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายลดช่วงติดลบ จากการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐผ่านสภาผุ้แทนราษฎร เข้ามาหนุนตลาด แต่ใน บ้านเราดัชนีไหลลง มาจากอีกปัจัจยที่ราคาน้ำมันดิ่งลงกังวลอุปสงค์หายไป ซึ่งกลุ่มพลังงานมีน้ำหนักมากในตลาดหุ้นบ้านเรา เช่นเดียวกับ กลุ่มธนาคารพาณิชยบ์ที่มีมูลค่าตลาดรวมขนาดใหญ่ ก็ปรับตัวลงจากความกังวลหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะพุ่งขึ้นหลังจากมาตรการพัก ชำระหนี้กำลังจะหมดอายุ ทำให้ 2 กลุ่มเผชิญแรงขายทำกำไรออกมา ขณะเดียวกันแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในภูมิภาคนี้ก็ยังมีอย่างต่อ เนื่อง เป็นปัจจัยกดดันตลาด ก็มีความเป็นไปได้ตลาดอยู่ในกรอบทางลงต่อ

ส่วนปัจจัยบวก ในบ้านเราลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีการหารือในศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ในวันที่ 7 ต.ค.นี้ ซึ่งจะช่วยกำลังซื้อซึ่งจะส่งผลบวกกลุ่มค้าปลีก

แนวโน้มตลาดวันที่ 5 ต.ค.นี้ คาดว่าปัจจัยต่างประเทศเป็นแรงกดดัน จากดาวน์โจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลดลงมาก มองตลาดมี ทิศทางลบ จึงยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หากรีบาวด์ไม่ผ่าน 780-785 จุดซึ่งเป็นแนวต้าน ก็จะมีทิศทางลง และแนวรับที่ 770-765 จุด รอเปิด short ในช่วงดีดตัวกลับ ทั้งนี้ ยังให้น้ำหนักความกังวลเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐ และการแพร่ระบาด ของโควิด-19

ส่วนราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่ผ่านสภาล่างแล้ว และดีดตัวขึ้นมาชนระดับ 1,900 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ อีกครั้ง และการกลับมาซื้อทองคำของกองทุน SPDR จำนวน 9.3 ตันในสัปดาห์นี้ มองว่านักลงทุนเห็นความไม่ แน่นอนทางการเมืองสหรัฐ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้มีเม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้ามาทองคำ นอกจากนี้ให้ติดตามตัว เลขเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคืนนี้มีตัวเลขภาคแรงงาน คาดว่ามีแนวโน้มฟื้นตัว อาจเป็นแรงกดดั้นให้ขายทำกำไรออกมาก่อน

สัปดาห์หน้ามีลุ้นฟื้นตัวบริเวณ 1,920 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งเป็นแนวต้าน หากผ่านให้แนวต้านถัดไปที่ 1,935 เหรียญสหรัฐ/ ออนซ์ ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,890 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ภาพทางเทคนิคมีแนวโน้มฟื้นตัวได้จากปัจจัยพื้นฐานที่รับความคาดหวังมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐ

ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 777.31 จุด ลดลง 10.71 จุด, -1.36%

                                              ปริมาณ            สถานะคงค้าง
Total Market                                453,124            1,832,949
Total Futures                               445,404            1,802,758
SET50 Index                                 238,452              412,652
Sector Index                                      -                    -
Single Stock                                143,502            1,293,612
Precious Metal                               58,775               63,483
- GF10                                       15,520               30,655
- GF50                                          352                1,958
- Gold Online                                42,903               30,870
Deferred Precious Metal                          13                   10
- GOLD-D                                         13                   10
Currency                                      4,656               32,725
Interest Rate                                    -                     -
Agriculture                                       6                  276
Total Options                                 7,720               30,191
Call                                          3,116               12,759
Put                                           4,604               17,432

สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน
                             นักลงทุนสถาบัน         นักลงทุนต่างชาติ           นักลงทุนภายในประเทศ
Futures                        -18,157             -14,076                  +32,233
Options                            +66                +160                     -226

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ