
ท่ามกลางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกในทุกมิติ คุณโจ้ ธนา เธียรอัจฉริยะ ผู้บริหาร ที่ปรึกษาธุรกิจ และเจ้าของเพจเขียนไว้ให้เธอ ได้จุดประเด็นที่น่าสนใจในงาน Creative Talk Conference 2025 (CTC 2025) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2568 ณ Bhiraj Hall, BITEC Bangna
บนเวทีเสวนาหัวข้อ "Likeable ทักษะที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ในยุค AI" คุณโจ้ชี้ให้เห็นว่า แม้ AI จะเก่งกาจในการประมวลผลข้อมูลซับซ้อนได้รวดเร็วกว่ามนุษย์ แต่มีบางสิ่งที่ AI ไม่อาจควบคุมหรือทำนายได้ นั่นคือ "โชค" และอีกสิ่งที่ AI ทำไม่ได้ คือการเป็น "คนน่ารักน่าคบหา"

คุณโจ้กล่าวว่า AI จะไม่เข้ามาแทนที่มนุษย์โดยตรง แต่คนที่รู้จักใช้ AI อย่างชาญฉลาดจะเข้ามาแทนคนที่ใช้ AI ไม่เป็น ดังนั้น การแข่งขันในอนาคตจึงไม่ได้วัดกันที่ใครเก่งกว่าใคร แต่จะขึ้นอยู่กับว่าใครมี "ทักษะมนุษย์" ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ไม่อาจเลียนแบบหรือเข้ามาแทนที่ได้
ในโลกของ AI รูปแบบการเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ปรับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง การทำความเข้าใจแนวคิด ITYx จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เราสร้างคุณค่าและความโดดเด่นในตลาดที่ AI เข้ามามีบทบาท เพื่อให้มนุษย์ยังคงเป็นส่วนสำคัญที่ AI ทดแทนไม่ได้

I: การเรียนรู้แบบเชิงลึก คือ การที่เรามีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลึกซึ้งถึงแก่น ทักษะแบบ "ตัว I" นี้มีประโยชน์มากในงานที่ต้องการความชำนาญเฉพาะด้านสูง ทำให้เราสามารถเรียกค่าตอบแทนที่สูงได้ เพราะเป็นทักษะที่หาตัวจับยาก
T: การเรียนรู้ทักษะสองด้านควบคู่กันไป คือ ทั้ง "รู้ลึก" และ "รู้กว้าง" เช่น ทนายที่มีความรู้ด้านอื่นด้วยนอกจากกฎหมาย
Y: ความเชี่ยวชาญแบบสหวิทยาการ เมื่อเราเชี่ยวชาญในสองศาสตร์ควบคู่กัน ทำให้เราไปได้ไกลกว่าเดิมและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ การพัฒนาทักษะแบบ "ตัว Y" เป็นกลยุทธ์ที่ดี เพราะแม้ AI จะเก่งในการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง แต่ยังไม่สามารถสังเคราะห์ความรู้จากสองศาสตร์ที่แตกต่างกันอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างสรรค์ "ความคิดสร้างสรรค์" และ "นวัตกรรม" ที่ไม่เคยมีมาก่อนได้

X: ความสามารถในการเป็นผู้นำและประสานงาน แม้ AI จัดการข้อมูลและทำงานได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังขาด "ทักษะมนุษย์" ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างและรักษาสายสัมพันธ์ที่ซับซ้อน บุคคลที่มีทักษะแบบ "ตัว X" คือผู้ที่สามารถชักชวนและรวบรวมคนจากหลากหลายสาขาให้มาร่วมงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเสมือนกาวที่เชื่อมโยงความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน และเป็นผู้ประสานงาน สร้างความเข้าใจ และผลักดันโปรเจกต์ใหญ่ ๆ ที่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย
ความเป็นคนน่ารักน่าคบหา (Likeability) คือทักษะการเอาตัวรอดของมนุษย์ในยุค AI เปรียบได้กับพลังพิเศษที่ไม่ใช่แค่การมีบุคลิกภาพที่ดี แต่เป็นเรื่องการสร้างความไว้วางใจ ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง และสภาพแวดล้อมที่ทำให้ผู้คนอยากร่วมงานกับคุณอย่างสุดใจ
ในขณะที่ AI ประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ในเวลาอันสั้น แต่ AI ไม่สามารถสร้างสายสัมพันธ์ที่แท้จริงได้ AI อาจแนะนำสินค้าที่ "ใช่" แต่ไม่อาจทำให้คน "ชอบ" ได้ นี่คือจุดที่ทำให้ "Likeability" เป็นทักษะที่ AI ลอกเลียนแบบไม่ได้
ดังที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังเคยกล่าวไว้ว่า "คนที่เราคบหาสมาคมด้วยนั้นสำคัญอย่างยิ่ง... ชีวิตของคุณจะก้าวหน้าไปในทิศทางเดียวกับคนเหล่านั้นที่คุณทำงานด้วย คนที่คุณชื่นชม และคนที่กลายมาเป็นเพื่อนของคุณ" AI อาจเชื่อมโยงข้อมูล แต่ความเป็นคนน่าคบหาต่างหากที่เชื่อมโยงหัวใจผู้คน สร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งและเกื้อกูลกันอย่างแท้จริง
คุณโจ้เผยว่า การทำให้ผู้อื่นดูดี หรือแม้กระทั่งการใช้ "ศิลปะแห่งการเสียเปรียบ" เพื่อซื้อใจผู้อื่น สิ่งเหล่านี้คือกลยุทธ์ความสัมพันธ์ที่ AI ไม่เข้าใจ บางครั้ง การเต็มใจที่จะให้ผู้อื่นก่อน หรือยอม "เสียเปรียบ" เล็กน้อยในบางเรื่อง ก็เป็นวิธีที่ทรงพลังที่สุดในการซื้อใจผู้คนและสร้างความไว้วางใจที่ลึกซึ้ง
ที่สำคัญ ความเป็นคนน่ารักไม่ได้มาจากการสร้างภาพลักษณ์ ไม่ใช่สิ่งที่เราประกาศให้โลกรู้ด้วยตัวเอง แต่เป็นสิ่งที่ได้รับจากผู้อื่น และได้รับการยืนยันโดยผู้อื่น ตามที่คุณโจ้กล่าวว่า เราเป็นคนน่ารักหรือไม่นั้น ผู้อื่นต้องเป็นคนบอก
โชค อาจไม่ใช่เรื่องเหนือการควบคุมอีกต่อไป คุณโจ้ได้ให้แนวคิดที่น่าสนใจว่า โชค = โอกาส + การเตรียมพร้อม และหัวใจสำคัญของการเตรียมพร้อมที่จะดึงดูดโอกาสเข้ามาหาคุณก็คือ ความเป็นคนน่ารักของคุณเอง
อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ คือ การทักทายผู้อื่นอย่างเป็นมิตร การมีนิสัยที่ดี และการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก จะทำให้คุณเป็นที่จดจำและเป็นที่ต้องการเสมอ เมื่อโอกาสดี ๆ ปรากฏขึ้น ผู้คนจะนึกถึงและเลือกที่จะส่งมอบโอกาสเหล่านั้นให้คุณก่อน หรือชักชวนคุณเข้าร่วมโครงการที่น่าสนใจ เพราะคุณคือคนที่น่าคบหาและน่าร่วมงานด้วยนั่นเอง
- ทำให้เกินความคาดหวังเสมอ: การทำแค่ตามที่คาดหวังไม่มีใครจดจำ แต่การทำมากกว่าที่คาดหวังคือสิ่งที่ทำให้คุณโดดเด่นและเป็นที่ชื่นชม
- อยู่กับปัจจุบันและใส่ใจรายละเอียด: มีสติในการสนทนาและจดจำรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การจำชื่อของคนที่พูดคุยด้วยได้จะสร้างความผูกพันและทำให้คุณเป็นที่น่าจดจำ
- ถ่อมตนและมีเมตตา: มีทัศนคติที่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่เสมอ (Don't be a know-it-all. Be a learn-it-all) ควบคู่ไปกับความถ่อมตนและความเมตตา จะดึงดูดผู้คนให้เข้าหา
- เป็นผู้ให้: ความสำเร็จจะทวีคูณเมื่ออยู่ร่วมกับผู้ให้และเป็นผู้ให้ ทัศนคตินี้สร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อกูลและไว้วางใจกัน
- เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส: เมื่อเกิดวิกฤต การจัดการที่ถูกต้องสามารถสร้างความไว้วางใจและเพิ่มความน่าคบหาของคุณได้
- ใส่ใจผู้อื่นมากกว่าตัวเอง: เราต้องมองเห็นคุณค่าของผู้อื่นมากกว่าตัวเอง
ทุกวันนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า AI กลายเป็นส่วนสำคัญในการทำงาน เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่มาเพื่อเสริมพลังให้กับผู้ที่รู้จักนำไปใช้อย่างชาญฉลาด ซึ่งนอกเหนือจากความสามารถทางเทคนิคแล้ว "Likeability" คือซอฟต์สกิลอันทรงพลังที่จะนำพาเราไปได้ไกลยิ่งกว่าใคร เพราะจะช่วยให้เราเป็นที่จดจำ เป็นที่ต้องการ และดึงดูดโชคหรือโอกาสดี ๆ เข้ามาในชีวิต
ในโลกที่ AI ยังพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง คุณค่าที่แท้จริงของเราจึงยังคงอยู่ที่การเป็นมนุษย์