สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) จัดงานสัมมนา Thailand Marketing Day 2025 "Prompt the Future : The Power of Marketing" เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในงานนี้ได้มีการเปิดเวทีให้น้อง ๆ Gen Z จากทีม J-MAT (ชมรมยุวสมาชิกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย) รวม 3 คน ทั้งนิสิต เด็กจบใหม่ และคนที่ทำงานแล้ว ร่วมแชร์มุมมองในฐานะชาว Gen Z ตัวจริงเสียงจริง เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนี้ โดยมีคุณพงษ์ปิติ ผาสุขยืด ผู้ก่อตั้งเพจ Ad Addict เป็นผู้ดำเนินรายการ
* Gen Z ไม่ใช่ไม่อดทน แต่ตามหางานที่ตอบโจทย์ชีวิต
ประเด็นที่ได้ยินกันบ่อย ๆ คือเรื่องที่ Gen Z ถูกมองว่า "ไม่ทนงาน" หรือ "เปลี่ยนงานบ่อย" ซึ่งน้อง ๆ ทั้งสามได้พูดถึงประเด็นนี้ว่า Gen Z ไม่ใช่ไม่อดทน เพียงแต่ตามหางานที่ตรงตามเป้าหมายของตนเอง หากองค์กรไม่ตอบโจทย์ ก็อาจมองหาทางเลือกใหม่ โดยเฉพาะในยุคนี้ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทำได้ง่ายมาก ทำให้ Gen Z เปลี่ยนงานได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ เงินไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่สามารถซื้อใจ Gen Z ได้ พวกเขาให้ความสำคัญกับ Value หรือคุณค่า ได้โชว์ฝีมือและมีคนเห็นคุณค่าในงาน ได้ช่วยสังคมหรือทำให้ผู้บริโภคมีชีวิตที่ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน Gen Z เติบโตมากับยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทำให้คนรุ่นนี้มีความกังวลเป็นพิเศษ และทำให้มีความคาดหวังสูงกว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งหากมีผู้ยื่นโอกาสที่น่าสนใจและตอบโจทย์สิ่งที่มองหาในชีวิต ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Gen Z อยากจะลองทำ
*งานเสริมและ Work-Life Balance
Gen Z อาจทำงานหลายอย่าง เช่น ทำงานประจำควบคู่ไปกับธุรกิจส่วนตัว หรือการเป็น Content Creator เพราะต้องการทำงานที่ทำให้บรรลุเป้าหมายในชีวิต เช่น มีเงินท่องเที่ยวรอบโลก
นอกจากนี้ Gen Z บางคนยังไม่รู้เป้าหมายที่ชัดเจน จึงเลือกที่จะลองทำหลาย ๆ อย่างเพื่อค้นหาความถนัด และหลายคนชอบงานที่ Work From Home/Anywhere ได้ เพราะช่วยประหยัดเวลาเดินทางและมีเวลาไปทำอย่างอื่น ซึ่งกลายเป็นปัจจัยที่ Gen Z พิจารณาเป็นพิเศษ
* ขายอย่างไรให้โดนใจ Gen Z
หากแบรนด์ต่าง ๆ ต้องการเข้าถึงชาว Gen Z น้อง ๆ บนเวทีได้ร่วมแชร์คีย์เวิร์ดสำคัญ นั่นคือภาพลักษณ์ ความจริงใจ และการสร้าง Character
Gen Z ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ โดยจะสนับสนุนแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ที่ดี เพราะการใช้สินค้าของแบรนด์นั้น ๆ จะสะท้อนว่า "ฉันเป็นคนเทสต์ดี" ในทางกลับกัน หากแบรนด์มีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี Gen Z จะกังวลว่าคนอื่นจะมองตนเองไม่ดีด้วย
ความจริงใจก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดย Gen Z มีเซนส์ในการตรวจสอบแบรนด์ และพร้อมที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่จริงใจ พวกเขาต้องการข้อมูลที่ตรงไปตรงมา นอกจากนี้ ชาว Gen Z ยังตามเทรนด์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งแบรนด์นำจุดนี้มาต่อยอดได้ เมื่อมาในรูปแบบของการเล่าเรื่องตามเทรนด์และแทรกความจริงใจเข้าไป แต่หากเปิดคลิปมาแล้วขายตรงทันที พวกเขาจะปัดทิ้ง
Gen Z ต้องการใช้ของที่เข้ากับ Character และสร้าง Value ให้กับตนเอง นักการตลาดจึงควรศึกษา Character ของกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด เพราะการจะบอกเพียงว่าเรามีเป้าหมายที่กลุ่ม Gen Z นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป แบรนด์จำเป็นต้องเข้าใจลึกลงไปว่าต้องการคุยกับ Gen Z ที่มี Character แบบไหน เช่น 'วัยรุ่นเทสดี' หรือ 'คุณพี่นักวิ่ง'
* ข้อคิดถึง Gen Z ด้วยกัน: "เปิดใจ" และ "สื่อสาร"
สำหรับเพื่อนๆ Gen Z ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกการทำงาน น้อง ๆ ทั้งสามได้ฝากข้อคิดในการทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ Gen X, Gen Y จากประสบการณ์ที่เคยได้สัมผัสการทำงานกับพี่ ๆ มาแล้ว
เปิดใจฟัง: การที่ผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้ได้ทดลองหรือแสดงความคิดเห็นนั้นเป็นเรื่องดี ไม่ควรหัวแข็งหรือดื้อไม่ฟังความคิดเห็นของผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่เคยผ่านมาก่อน อยากให้ลองเปิดใจฟังสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการพูด และหากยังเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นน่าสนใจ และน่าจะตอบโจทย์ยุคนี้มากกว่า ก็ให้คุยกันเพื่อหาโอกาสลอง ซึ่งจะกลายเป็น Learning Point ให้ตัวเอง
สื่อสารและประนีประนอม: ปัญหาความขัดแย้งของคนต่างรุ่นมักเกิดจากการไม่สื่อสารหรือการใช้คำที่รุนแรง ทั้งสองฝ่ายจึงควรรู้จักสื่อสารและประนีประนอม หาก Gen Z มีจุดยืนหรือสิ่งที่อยากได้ ก็ควรอธิบายเหตุผล หรือหากฝั่งพี่ ๆ ผู้ใหญ่อยากสอนน้อง ก็ควรอธิบายด้วยเหตุผลเช่นกัน มุมมองของคนแต่ละ Gen นั้นมี Value ของตัวเองอยู่แล้ว ทุกคนเรียนรู้มาต่างกัน ถ้ามารวมกันแล้วก็น่าจะสร้างอะไรใหม่ ๆ ที่ดีได้
กล้าเรียนรู้สิ่งใหม่: ไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่ในงานที่ตรงกับ Value เพียงอย่างเดียว เพราะ Value บางอย่างอาจซ่อนอยู่ในงานที่เราอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอยู่ ซึ่งท้ายที่สุดอาจกลายเป็นความรู้ใหม่ ๆ ที่เปิดอีกโลกหนึ่งเลยก็ได้
ทั้งนี้ สำหรับแบรนด์ต่าง ๆ แล้ว การเข้าถึง Gen Z ต้องอาศัยภาพลักษณ์ที่ดี ความจริงใจ และ Character ที่ใช่ ขณะเดียวกัน การเปิดใจรับฟังและการสื่อสารอย่างประนีประนอม ก็จะให้มุมมองและคุณค่าที่แตกต่างกันของคนแต่ละ Gen เพื่อนำไปสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ดีกว่า
สุดท้ายแล้ว การเปิดใจและสื่อสารไม่เพียงแต่เป็นข้อคิดฝากถึงชาว Gen Z เท่านั้น แต่ยังเป็นหลักการสำคัญที่ทุกคนควรนำไปปรับใช้ เพื่อให้การทำงานร่วมกันและการตลาดในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ