Media Talk: รู้ทันเทคนิค เพิ่มความปังธุรกิจออนไลน์กับ"กิตตินันท์ อุ้ยวงค์ไพศาล"

ข่าวทั่วไป Thursday August 8, 2019 17:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หากพูดถึงช่องทางการเริ่มต้นทำธุรกิจ นาทีนี้คงจะหนีไม่พ้น "ธุรกิจออนไลน์ " ซึ่งกำลังมาแรงอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเริ่มทำได้ง่าย ใครก็สามารถทำได้เพียงมีอาวุธที่เรียกว่า "อินเทอร์เน็ต" อยู่ในมือ แต่การจะสร้างยอดขายให้ประสบความสำเร็จนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไรนัก

คุณกิตตินันท์ อุ้ยวงค์ไพศาล ผู้บริหารช่องทางการตลาดออนไลน์จาก 24 Shopping ได้เผยเทคนิคการสร้างยอดขายออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การใช้เครื่องมือสร้างยอดขายอย่างแรกที่ผู้ขายควรมี คือ "Customer Journy" ที่จะช่วยทำให้การวางแผนทางการตลาดเป็นไปอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น

"Customer Journy" คืออะไร? แปลตรงตัวคือ การเดินทางของผู้บริโภค หรือแนวทางของผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆ ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ 5 ประการ ดังนี้

Awarness: การทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าของเรา นับเป็นขั้นตอนเริ่มแรกที่ผู้บริโภคจะเห็นแบรนด์ก่อนเป็นอันดับแรก

Consideration: การสร้าง Keyword ที่จะทำให้ลูกค้านึกถึงสินค้าของเรา เพื่อเป็นช่องทางเข้าถึงลูกค้า

Perchase: ช่องทางการขายสินค้า หรือหน้าร้านของเรานั่นเอง เช่น Facebook Instagram Twitter

Retention: การทำให้ลูกค้ามาซื้อซ้ำ เกิดจากการทำให้ลูกค้าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นด้านการบริการ ขนส่ง แพ็คเกจ

Advocacy: การทำให้ลูกค้ารัก เมื่อลูกค้ารักในสินค้าของเราก็จะกลายเป็นกระบอกเสียงต่อไป

เมื่อการวางแผนทางการตลาดเป็นไปอย่างง่ายดาย เครื่องมือชิ้นต่อไปที่ขาดไม่ได้ คือ "ช่องทางการขายสินค้าออนไลน์" ซึ่งประกอบด้วย

1. E-commerce site การสร้างยอดขายจากเว็บไซต์เป็นหลัก เปรียบเสมือนเป็นบ้านผู้ขาย ซึ่งปัจจุบันการสร้างเว็บไซต์มีหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเองโดยผู้ขายเริ่มทำเองหมดทุกอย่าง ต้องอาศัยความตั้งใจ และความครีเอทีฟสูง เว็บไซต์แบบกึ่งสำเร็จรูปที่ผู้ขายแทบไม่ต้องสร้างข้อมูลอะไรมาก และร้านค้าออนไลน์สำเร็จรูปที่สามารถหยิบยกมาใช้ได้เลย

2. Social Media เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักช่องทางนี้อย่างแน่นอน ช่องทางส่วนใหญ่ที่ผู้ขายใช้กันก็คือ Facebook และ Line Official Account

เห็นได้ชัดว่า ช่องทาง Facebook นั้นได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับโลกธุรกิจออนไลน์ เนื่องจาก Facebook แทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน อีกทั้ง Facebook ยังมีหน้าต่างแยกออกไปสำหรับโพสต์ขายสินค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นทาง Profile, Page หรือ Group ถึงแม้ว่า Facebook จะได้รับความนิยม แต่ความท้าทายอย่างหนึ่งในการโพสต์ขายสินค้าคือ "ต้องมีต่อม Creative ที่ทำงานตลอดเวลา" เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้สนใจสินค้าของเรา เสมือนกับการปรุงอาหาร "ปรุงอร่อย แล้วคอนเทนต์จะไปได้ไกล" อีกทั้งทำให้เราไม่ต้องเสียเงินทองมากมายเพื่อโฆษณาสินค้า

แล้ว Facebook ต่างกับ Line Official Account อย่างไร?

Facebook จะตอบโจทย์สำหรับผู้ขายที่ต้องการหาลูกค้าใหม่ ส่วน Line Official Account ตอบโจทย์เรื่องการรักษาลูกค้าเก่าไว้นั่นเอง ซึ่งการรักษาลูกค้าเก่าจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปหากผู้ขายให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านี้

  • การออกแบบ Line Official Account ให้รูปภาพกราฟิกน่าสนใจ และสิ่งที่จะดึงดูดก็คือ "ราคา"
  • เวลาในการส่งข้อความที่เหมาะสม เช่น หากลูกค้าของเราคือวัยทำงาน ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการส่งข้อความที่สุดคือช่วงเวลาเช้าหรือเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดินทางนั่นเอง
  • สร้างพฤติกรรมให้ลูกค้ารู้ว่าข้อความของเราสำคัญ โดยอาจจะเพิ่ม QR code ในรูปภาพที่เราส่งไปเพื่อใช้สำหรับลดราคาสินค้า
  • ช่องทาง Timeline ใน Application Line ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมากในคนกลุ่มอายุ 40 ปี ขึ้นไป

3. Marketplace ตัวอย่างที่หยิบยกมาคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก Lazada และ Shopee ซึ่งเป็นตลาดที่ได้รับนิยมไม่แพ้ Facebook ก็จริง แต่ผู้ขายจะต้องเสียเงินเพื่อนำสินค้าเข้าไปใน Marketplace เหล่านี้ ซึ่ง Lazada และ Shopee มีจุดต่างกันที่ฐานราคาสินค้า โดย Lazada จะเน้นขายสินค้าที่มีราคาสูง ส่วน Shopee จะเน้นขายสิ้นค้าที่มีราคาต่ำกว่า Lazada นั่นเอง และหากพูดถึงเสน่ห์ของ Marketplace ก็คงจะเป็นคูปองส่วนลด รวมถึง Flash Sale ที่สามารถดึงดูดผู้บริโภคได้อย่างดี

"คนซื้อไม่ได้จับของ" ปัญหาของการขายของออนไลน์

เทคนิคง่ายๆที่จะแก้ปัญหานี้ คือ ผู้ขายต้องทำความเข้าใจหลักแนะนำสินค้า (F A B)

F: Feature อธิบาย ขนาด รูปร่าง สี ส่วนผสมของสินค้า เพื่อผู้ซื้อจินตนาการถึงภาพสินค้าเราได้ง่ายขึ้น

A: Advantage คำโฆษณาของสินค้า เปรียบเทียบถึงข้อดีของสินค้าเรากับสินค้าแบรนด์อื่น

B: Benefit ผลลัพธ์หรือความสุขที่ลูกค้าได้จากสินค้าคืออะไร

อีกตัวช่วยสำคัญในการทำให้ผู้บริโภคเข้าใจลักษณะสินค้า คือ การทำภาพกราฟฟิคอธิบายสินค้าให้น่าสนใจ หรืออีกทางหนึ่งที่ผู้ขายนิยมไม่แพ้กันคือการถ่ายรูปรีวิวจากสินค้าจริง ถ่ายภาพสินค้าให้น่าสนใจ ตัวอย่างง่ายๆ เช่น การถ่ายรูปอาหารให้น่าสนใจ ลองใช้การถ่ายรูปให้เหมือนมีอาหารวางอยู่ตรงหน้า เท่านี้ก็เพิ่มความน่ารับประทานของอาหารได้อีกระดับ เห็นได้ว่า"แค่เปลี่ยนวิธีนำเสนอ ยอดขายพุ่งกระฉูด"แล้ว

คนส่วนใหญ่ช้อปปิงออนไลน์ เพราะ?

การช้อปปิงออนไลน์เป็นเรื่องที่ง่าย และยังได้รับสินค้ารวดเร็ว ที่สำคัญคือ มีโปรโมชั่น หลากหลาย ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่มักให้ความสนใจกับโปรโมชั่นสินค้าลดราคา

เทคนิคสู่ความสำเร็จในการสร้างยอดขายออนไลน์

สูตรเล็กๆที่ไม่ลับสำหรับการสร้างยอดขายก็คือ ยอดขาย = Session x %CVR x Price

Sessions คือ จำนวนคนที่เข้าชมเว็บไซต์และไม่ออกจากเว็บไซต์ในช่วงระยะเวลาที่เกิน 30 นาทีไปแล้ว ซึ่งผู้ขายต้องมีเครื่องมืออย่างความรู้ด้านการตลาดมาเป็นตัวช่วยเพิ่ม Sessions

Conversion Rate Order คือการเปลี่ยนจากผู้ชมเว็บไซต์เป็นผู้ซื้อสินค้า ผู้ขายต้องมีเครื่องมือด้านครีเอทีฟมาช่วยเพิ่ม CVR เช่นกัน

Price ราคาเฉลี่ยสินค้าในร้านค้าของเรา

ลองนำสูตรนี้ไปใช้ รับรองความสำเร็จในการสร้างยอดขายออนไลน์อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน กูรูการตลาดออนไลน์ทิ้งท้าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ