ผลสำรวจประจำปีงบประมาณ 2567 ของทีมวิจัยประจำกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่น ซึ่งเผยแพร่วันศุกร์ (12 ธ.ค.) พบว่า มีนักเรียนมัธยมปลายในญี่ปุ่นราว 10% ที่ใช้ยาอย่างยาแก้ไอที่จำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป (OTC) ในทางที่ผิดโดยใช้ยาดังกล่าวหลายครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่าในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา โดย 4.6% ของนักเรียนกลุ่มนี้ใช้ยาเกือบทุกวัน ส่วน 6.3% ใช้ยาหลายครั้งต่อสัปดาห์
ทีมวิจัยได้ประเมินอัตราการใช้ยาในทางที่ผิดด้วยการสอบถามว่า มีการใช้ยาที่จำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปเกินปริมาณที่กำหนดในใบสั่งยาหรือบ่อยครั้งในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเพื่อ "ทำให้รู้สึกมึนเมาหรือเปลี่ยนแปลงอารมณ์" หรือไม่ และพบว่า นักเรียนมัธยมปลายมีอัตราดังกล่าวอยู่ที่ 1.4% หรือคิดเป็นราว 1 ใน 70 คน แบ่งเป็น 0.9% ในเพศชาย และ 1.7% ในเพศหญิง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การสำรวจครั้งล่าสุดระหว่างเดือนก.ย. 2567 จนถึงเดือนก.พ. 2568 ยังดำเนินการประเมินความถี่ของการใช้ยาในทางที่ผิดเป็นครั้งแรก โดยมีประชาชนให้คำตอบ 51,000 คน ขณะญี่ปุ่นเกิดความกังวลเกี่ยวกับการใช้ยาเกินควรเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการรับประทานยาแก้ปวดที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งยาในการซื้อในหมู่วัยรุ่นคนหนุ่มสาว
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ทำการสำรวจระดับชาติในหมู่นักเรียนมัธยมปลายทุก 3 ปี เพื่อสำรวจการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และใช้ยาในทางที่ผิด โดยผลสำรวจในปี 2564 พบว่า 1.6% ของนักเรียนมัธยมปลายในญี่ปุ่นใช้ยาที่จำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปในทางที่ผิด คิดเป็นราว 1 ใน 60 คน