พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฏากรว่าด้วยการกำหนดกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดฐานภาษี สำหรับกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะบางกรณี

ข่าวกฏหมายและประกาศ Friday September 17, 1999 07:22 —ประมวลรัษฎากร

พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดฐานภาษี สำหรับกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะบางกรณี (ฉบับที่ 358) พ.ศ. 2542 _____________ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2542 เป็นปีที่ 54 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดฐานภาษีสำหรับกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะบางกรณี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 91/2 (8) และมาตรา 91/5 (8) แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2534 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดฐานภาษีสำหรับกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะบางกรณี (ฉบับที่ 358) พ.ศ. 2542" มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 ในพระราชกฤษฎีกานี้ "ธุรกิจแฟ็กเตอริง" หมายความว่า ธุรกิจที่ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการตกลงจะโอนทรัพย์สินที่จะได้รับจากการชำระหนี้เนื่องจากการขายสินค้าหรือการให้บริการระหว่างตนกับลูกหนี้ของตนให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริง โดยผู้ประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริงตกลงจะให้สินเชื่อซึ่งรวมถึงการให้กู้ยืมและการทดรองจ่ายแก่ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการและรับที่จะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (1) จัดให้มีบัญชีทรัพย์สินที่จะได้รับจากการชำระหนี้ (2) เรียกเก็บทรัพย์สินที่จะได้รับจากการชำระหนี้ (3) รับผิดชอบในหนี้ที่ลูกหนี้ของผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการผิดนัด ผู้ประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริงตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริงอื่น ซึ่งรับโอนหรือตกลงจะรับโอนทรัพย์สินจากผู้ประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริงตามวรรคหนึ่งและรับที่จะดำเนินการตาม (1) (2) หรือ (3) ของวรรคหนึ่งด้วย มาตรา 4 กำหนดให้การประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริงเป็นกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มาตรา 5 ฐานภาษีสำหรับการประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริงตามมาตรา 4 ได้แก่ ดอกเบี้ย ส่วนลด ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีหมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่ในปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนในประเด็นกฎหมายว่าผู้ซึ่งประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริงจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีธุรกิจเฉพาะ ทำให้การเสียภาษีของผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวมีความแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องกำหนดการเสียภาษีในกรณีนี้ให้มีความชัดเจน และโดยที่การประกอบธุรกิจดังกล่าวมีลักษณะคล้ายคลึงกับการให้กู้เงินที่เป็นการประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ ซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ สมควรกำหนดให้การประกอบธุรกิจแฟ็กเตอริงเป็นกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดฐานภาษีสำหรับกิจการดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ