พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 381) พ.ศ.2544 ___________________________ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2544 เป็นปีที่ 56 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีมูลค่เพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์บางกรณี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3(1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 381) พ.ศ.2544" มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามหมวด 4 ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด 5 และอากรแสตมป์ตามหมวด 6 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์ สำหรับเงินได้ที่ได้รับและสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการโอนทรัพย์สินที่ได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนดแล้วกลับคืนให้แก่สถาบันการเงินผู้โอนทรัพย์สินนั้นแก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ เฉพาะกรณีที่ (1) สถาบันการเงินผู้โอนเป็นสถาบันการเงินที่ถือหุ้นในบริษัทบริหารสินทรัพย์เกินกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงหรือในกรณีที่สถาบันการเงินผู้โอนนั้นถือหุ้นในบริษัทบริหารสินทรัพย์ไม่เกินกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงจะต้องมีนิติบุคคลรายหนึ่งถือหุ้นในบริษัทบริหารสินทรัพย์และสถาบันการเงินผู้โอนนั้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียง (2) ทรัพย์สินที่โอนกลับคืนให้แก่สถาบันการเงินผู้โอนต้องเป็นสินทรัพย์จัดชั้นปกติหรือสินทรัพย์จัดชั้นควรระวังเป็นพิเศษตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด (3) เป็นการโอนทรัพย์สินกลับคืนให้แก่สถาบันการเงินผู้โอนในราคาตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด และ (4) เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด ทั้งนี้ เฉพาะการโอนทรัพย์สินและสำหรับการกระทำตราสารที่ได้กระทำในระหว่างวันที่พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้มีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2544 มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ผู้รับสนองพระบรมราชโองการพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหมายเหตุ: เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 ได้กำหนดให้มีการจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ เพื่อดำเนินการรับซื้อหรือรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินรวมตลอดจนหลักประกันของสินทรัพย์นั้น เพื่อนำมาบริหารหรือจำหน่ายจ่ายโอนต่อไป แต่เนื่องจากการจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์สมควรยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์สำหรับเงินได้ที่ได้รับและสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการโอนทรัพย์สินกลับคืนให้แก่สถาบันการเงินผู้โอนทรัพย์สินนั้นแก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้