กฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2543) ออกตามควาในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ____________________________ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 มาตรา 11 และมาตรา 28 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2543 และมาตรา 29 มาตรา 40 มาตรา 41 มาตรา 54 มาตรา 57 มาตรา 59 และมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการกำจัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 31 มาตรา 35 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 2 บรรดาคำขอต้องใช้แบบพิมพ์ที่อธิบดีประกาศกำหนด การกรอกข้อความในคำขอ ให้กรอกข้อความให้ครบถ้วนเป็นภาษาไทย โดยใช้พิมพ์ดีด หรือตีพิมพ์ และลงลายมือชื่อผู้ยื่นคำขอนั้น การยื่นคำขอ ให้ยื่นต่อนายทะเบียน ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือหน่วยงานอื่นตามที่อธิบดีประกาศกำหนด หรือส่งโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับถึงนายทะเบียน ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ หรือโดยวิะอื่นใดตามที่อธิบดีประกาศกำหนด พร้อมเงินค่าธรรมเนียม เว้นแต่บทบัญญัติในข้ออื่นแห่งกฎกระทรวงฉบับนี้จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ในกรณีส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับตามวรรคสาม ให้ถือว่าวันที่คำขอไปถึงกรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นวันที่ยื่นคำขอนั้น" ข้อ 2 ให้ยกเลิกความใน (1) ของข้อ 10 แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "(1) สำเนาคำขอ จำนวน 5 ฉบับ" ข้อ 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองของข้อ 11 แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 "ในกรณีที่เครื่องหมายการค้าที่ขอจดทะเบียนเป็นรูปร่างหรือรูปทรงของวัตถุ ภาพเครื่องหมายการค้านั้นต้องแสดงรูปร่างหรือรูปทรงของวัตถุอันเป็นสาระสำคัญทั้งหมดที่ประสงค์จะขอความคุ้มครองโดยจะแสดงเป็นภาพถ่ายหรือรูปเขียนก็ได้" ข้อ 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นจ้อ 11 ทวิ แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 "ข้อ 11 ทวิ ผู้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่เป็นรูปร่างหรือรูปทรงของวัตถุ จะส่งคำพรรณนารูปร่างหรือรูปทรงของวัตถุนั้นเพื่อประกอบคำขอจดทะเบียนก็ได้ แต่ต้องไม่เกินหนึ่งร้อยคำและต้องยื่นพร้อมคำขอจดทะเบียน" ข้อ 5 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 12 ทวิ และข้อ 12 ตรี แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 "ข้อ 12 ทวิ ในกรณีที่ผู้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ามีความประสงค์จะขอใช้สิทธิตามมาตรา 28 ทวิ ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนและคำขอใช้สิทธิตามมาตรา 28 ทวิ พร้อมแนบเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้ (1) หลักฐานที่แสดงว่าผู้ขอจดทะเบียนได้นำสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าที่ยื่นขอจดทะเบียนนั้น ออกแสดงในงานแสดงสินค้าระหว่างประเทส (2) หนังสือรับรองการจัดงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศซึ่งออกให้โดยรัฐบาล ในกรณีที่รัฐบาลไทยเป็นผู้รับรองการจัดงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศนั้น หรือหนังสือรับรองการจัดงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศซึ่งออกให้โดยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐของประเทศไทยหรือของประเทศภาคีแห่งอนุสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าซึ่งประเทสไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย ในกรณีที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นจองรัฐนั้นเป็นผู้จัดงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศขึ้น (3) สำเนาคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่มีการยื่นไว้นอกราชอาณาจักรครั้งแรก ซึ่งมีการรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้มีหน้าที่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศนั้น (ถ้ามี) (4) สำเนาคำแปลเอกสารตาม (1) (2) และ (3) ในกรณีที่เอกสารดังกล่าวเป็นภาษาต่างประเทศ งานแสดงสินค้าระหว่างประเทศตามวรรคหนึ่งหมายความว่า งานที่จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงหรือเสนอขายสินค้าแก่ผู้เข้าร่วมชมงาน และมีผู้เข้าร่วมในการแสดงหรือเสนอขายสินค้ามาจากประเทศตั้งแต่สองประเทศขึ้นไป ข้อ 12 ตรี ในกรณีที่ไม่อาจส่งเอกสารหลักฐานตามข้อ 12 ทวิ พร้อมกับคำขอจดทะเบียนได้ให้ผู้ขอจดทะเบียนทำหนังสือขอผ่อนผันตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนดพร้อมกับการขอจดทะเบียนและการขอใช้สิทธิตามมาตรา 28 ทวิ ในกรณีนี้ให้นายทะเบียนมีอำนาจผ่อนผันได้ไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วันที่ยื่นคำขอจดทะเบียน ในกรณีที่ผู้ขอจดทะเบียนไม่ส่งเอกสารหลักฐานภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้นายทะเบียนพิจารณาคำขอจดทะเบียนนั้นต่อไป โดยถือว่าผู้ขอจดทะเบียนไม่ประสงค์จะขอใช้สิทธิตามมาตรา 28 ทิว" ข้อ 6 ให้ยกเลิกความใน (1) ของข้อ 13 แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "(1) ในกรณีขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายการค้าซึ่งไม่เป็นสาระสำคัญ สำเนาคำขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน จำนวน 5 ฉบับ" ข้อ 7 ให้ยกเลิกความในข้อ 15 แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 15 การประกาศโฆษณาคำขอจดทะเบียน ให้นายทะเบียนดำเนินการโดยประกาศใน "หนังสือประกาศโฆษณาคำขอจดทะเบียน" และประกาศโฆษณาคำขอนั้นไว้ในที่เปิดเผย ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์" ข้อ 8 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 28 แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 28 ให้นายทะเบียนประกาศการรับจดทะเบียนของผู้คัดค้านในที่เปิดเผย ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โดยแสดงรายการดังต่อไปนี้" ข้อ 9 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองของข้อ 37 แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 "เจ้าของเครื่องหมายการค้าอาจชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุการจดทะเบียนพร้อมกับการยื่นคำขอต่ออายุ หรือภายในหกเดือนนับแต่วันสิ้นอายุการจดทะเบียนก็ได้" ข้อ 10 ให้ยกเลิกความในข้อ 42 แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 42 เมื่อนายทะเบียนอนุญาตให้เพิกถอนการจดทะเบียนรายใดแล้ว ให้บันทึกการเพิกถอนลงในทะเบียน พร้อมทั้งยกเลิกหนังสือสำคัญ และประกาศโฆษณาการเพิกถอนนั้นไว้ในที่เปิดเผย ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์" ข้อ 11 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของข้อ 44 แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "การสั่งเพิกถอนตามวรรคหนึ่ง ให้ประกาศโฆษณาไว้ในที่เปิดเผย ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์" ข้อ 12 ให้ยกเลิกความในข้อ 53 แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ข้อ 53 เมื่อคำสั่งของนายทะเบียนหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเป็นที่สุดตามมาตรา 74 หรือคำสั่งคณะกรรมการเป็นที่สุดตามมาตรา 75 หรือศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนการจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าแล้ว ให้นายทะเบียนเรียกเจ้าของเครื่องหมายการค้าให้ส่งหนังสือสำคัญและสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า แล้วส่งหนังสือสำคัญและสัญญา อนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้านั้นคืนให้แก่เจ้าของเครื่องหมายการค้า" ให้ไว้ ณ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2543 ศุภชัย พานิชภักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 เพื่อขยายความคุ้มครองเครื่องหมายการค้าให้ครอบคลุมถึงเครื่องหมายการค้าที่เป็นกลุ่มของสีและรูปร่างหรือรูปทรงของวัตถุ รวมทั้งเพื่อกำหนดลักษณะและหลักเกณฑ์และวิธีการในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ดังนั้น สมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้สอดคล้องกัน จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้