กฏกระทรวง ฉบับที่ 16 (พ.ศ. 2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ________________ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และมาตรา 75 ตรีง แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกกฎกระทรวง ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ข้อ 2 ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตรซึ่งมีอายะไม่เกินหกปีบริบูรณ์ การใช้สิทธิขอรับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตรจำนวนคราวละสองคนตามมาตรา 75 ตรีนั้น ให้นับลำดับบุตรโดยนับเรียงตามลำดับการเกิดก่อนหลัง ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นบุตรที่เกิดก่อนหรือหลังการเป็นผู้ประกันตน ข้อ 3 การจ่ายเงินสงคราะห์บุตรให้แก่ผู้ประกันตนซึ่งมีบุตรเกิดในระหว่างเดือนที่ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรแล้ว ให้จ่ายเต็มเดือน ข้อ 4 ถ้าบุตรซึ่งได้รับการสงเคราะห์มีอายุครบหกปีบริบูรณ์ หรือถึงแก่ความตาย หรือได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น หรือความเป็นผู้ปะกันตนสิ้นสุดลง ให้งดจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรตั้งแต่เดือนถัดจากเดือนที่บุตรมีอายุครบหกปีบริบูรณ์ หรือถึงแก่ความตาย หรือยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่นหรือความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง แล้วแต่กรณี ข้อ 5 ในกรณีที่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตายในขณะที่บุตรซึ่งได้รับการสงเคราะห์มีอายุไม่เกินหกปีบริบูรณ์ ให้จ่ายเงินสงเคราะห์บุตรแก่ผู้ประกันตนซึ่งเป็นผู้ทุพพลภาพหรือบุคคลตามมาตรา 75 จัตวา ต่อไปจนกว่าบุตรซึ่งได้รับการสงเคราะห์อยู่มีอายุครบหกปีบริบูรณ์ ข้อ 6 ผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรต้องยื่นหลักฐานการมีชีวิตอยู่ของบุตรต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามระยะเวลาที่สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด หากไม่ยื่นหลักฐานการมีชีวิตอยู่ของบุตรซึ่งได้รับการสงเคราะห์อยู่ภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้งดการจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรไว้จนกว่าจะได้มีการยื่นหลักฐานการมีชีวิตอยู่ของบุตร หลักฐานการมีชีวิตอยู่ของบุตรตามวรรคหนึ่ง ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารที่ทางราชการออกให้ หรือหนังสือรับรองของเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือข้าราชการตั้งแต่ระดับ 3 หรือเทียบเท่าขึ้นไป ข้อ 7 ประโยชน์ทดแทนในการณีสงเคราะห์บุตรให้เหมาจ่ายเป็นเงินในอัตราหนึ่งร้อยห้าสิบบาทต่อเดือนต่อบุตรหนึ่งคน ให้ไว้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2542 สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมหมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร เพื่อให้เป็นไปตามสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนพึงได้รับตามที่กฎหมายบัญญัติประกอบกับมาตรา 75 ตรี แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542 บัญญัติให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตรชอบด้วยกฎหมายซึ่งมีอายุตามที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ไม่เกินสิบห้าปีบริบูรณ์ ส่วนหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการจ่ายเงินสงเคราะห์บุตร ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้