พระราชกฤษฎีกา ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบางแห่งในจังหวัดกระบี่ จังหวัดสกลนคร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ.2548 ________________ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2548 เป็นปีที่ 60 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบางแห่งในจังหวัดกระบี่ จังหวัดสกลนคร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 2 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2543 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 31 มาตรา 35 มาตรา 48 มาตรา 49 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบางแห่งในจังหวัดกระบี่ จังหวัดสกลนคร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ.2548" มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 บังคับในเขตเทศบาลตำบลดังต่อไปนี้ (1) องค์การบริหารส่วนตำบลคีรีวง อำเภอปลายพะยา จังหวัดกระบี่ (2) องค์การบริหารส่วนตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร (3) องค์การบริหารส่วนตำบลคลองชะอุ่น อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลคีรีวง อำเภอปลายพะยา จังหวัดกระบี่ องค์การบริหารส่วนตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร และองค์การบริหารส่วนตำบลคลองชะอุ่น อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีการขยายตัวทั้งในด้านการก่อสร้างอาคารและการผังเมือง สมควรให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 บังคับในท้องที่ดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้