ถ้อยแถลงกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกับการโจมตีด้วยอาวุธโดยปราศจากการยั่วยุโดยกองกำลังกัมพูชาที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๔ (คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ)

ข่าวต่างประเทศ Monday April 25, 2011 13:33 —กระทรวงการต่างประเทศ

เกี่ยวกับการโจมตีด้วยอาวุธโดยปราศจากการยั่วยุโดยทหารกัมพูชาต่อทหารและพลเรือนไทย เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๔ กระทรวงการต่างประเทศไทยขอเรียนข้อเท็จจริงต่าง ๆ ดังนี้

๑. เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๔ ระหว่างเวลา ๐๖.๓๐ — ๐๗.๐๐ น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงและใช้อาวุธหนัก ซึ่งรวมถึงปืนครกและปืนใหญ่ โดยปราศจากการยั่วยุเข้าไปในบริเวณปราสาทตาควาย และตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชามุ่งไปทางปราสาทตาเมือนซึ่งตั้งอยู่จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย ทหารกัมพูชาทำการโจมตีดังกล่าวภายหลังจากที่ชุดลาดตระเวนของไทยพบทหารกัมพูชาที่ติดอาวุธซึ่งได้ก่อสร้างที่มั่นในบริเวณปราสาทตาควายในดินแดนไทย และแจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน

๒. เมื่อเวลา ๐๘.๐๐ น. มีการหารือระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังในพื้นที่ของทั้งสองฝ่ายซึ่งได้ตกลงที่จะหยุดยิง อย่างไรก็ดี เมื่อเวลา ๐๘.๓๐ น. ฝ่ายกัมพูชาเริ่มยิงปืนครกและปืนใหญ่เข้ามาในดินแดนไทยอีก ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงข้างต้น การยิงโต้ตอบดังกล่าวมีถึงเวลา ๐๙.๓๕ น.

๓. การโจมตีด้วยอาวุธโดยปราศจากการยั่วยุโดยทหารกัมพูชาได้ส่งผลให้ทหารไทยเสียชีวิตอย่างน้อย ๓ นาย ทหารหลายนายได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนของพลเรือนจำนวนมาก รวมทั้งต้องอพยพพลเรือนเกือบ ๑๐,๐๐๐ คนออกจากพื้นที่

๔. ฝ่ายไทยไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อนและได้ใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุดมาโดยตลอด อย่างไรก็ดี เมื่อคำนึงถึงการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ประเทศไทยจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนโดยใช้วิธีการที่สมน้ำสมเนื้อภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

๕. ประเทศไทยขอประท้วงอย่างรุนแรงต่อการใช้กำลังทหารของฝ่ายกัมพูชาต่อทหารและพลเรือนไทยโดยปราศจากการยั่วยุ และการสร้างที่กำบังซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ รวมถึงบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน พ.ศ. ๒๕๔๓ อย่างชัดเจน ประเทศไทยได้ใช้สิทธิในการป้องกันตัวเองบนพื้นฐานของความจำเป็น สมน้ำสมเนื้อ และมุ่งไปยังเป้าหมายทางทหารซึ่งกองกำลังกัมพูชาใช้โจมตีไทยอย่างเคร่งครัดเท่านั้น

๖. ประเทศไทยยืนยันความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขประเด็นเขตแดนที่ยังคั่งค้างโดยสันติวิธีและเรียกร้องให้ประเทศกัมพูชาแก้ไขข้อขัดแย้งดังกล่าวโดยอาศัยกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึง คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (หรือ GBC) คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (หรือ RBC) ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการชายแดนทั่วไป และคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (หรือ JBC) ในความเป็นจริงแล้ว ฝ่ายไทยได้หารือกับฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนในพื้นที่บริเวณปราสาทตาควายระหว่างการประชุม JBC ที่เมืองโบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ ๗-๘ เมษายน ๒๕๕๔ ทั้งนี้ บันทึกผลการหารือของการประชุมดังกล่าวซึ่งระบุว่าไทยได้แสดงความประสงค์และความพร้อมที่จะเริ่มการสำรวจหลักเขตแดนในพื้นที่ส่วนที่ ๕ อันเป็นบริเวณที่ปราสาทตาควายตั้งอยู่ เป็นการแสดงความจริงใจของฝ่ายไทยที่จะแก้ไขปัญหาเขตแดนโดยสันติวิธีภายใต้กลไกของ JBC นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมของไทยอยู่ในระหว่างการปรึกษาหารือกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อให้มีการประชุม GBC และ RBC ในโอกาสแรก

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ