ตามที่ประเทศไทยเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora - CITES) และมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาดังกล่าวนั้น นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์ตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะเร่งแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าและค้างาช้างที่ผิดกฎหมาย โดยได้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในหลายด้าน ซึ่งได้ปรากฏในรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทย (National Ivory Action Plan – NIAP) ฉบับแก้ไข ครั้งที่ ๑ ที่ได้จัดส่งให้สำนักเลขาธิการ CITES และการออกพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคมที่ผ่านมา
ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการและประชาชนที่ครอบครองงาช้างแจ้งการครอบครองและขออนุญาตค้างาช้างกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายในวันที่ ๒๑ เมษายนนี้ โดยผู้ครอบครองงาช้างในเขตกรุงเทพมหานครสามารถขึ้นทะเบียนได้ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ส่วนต่างจังหวัดสามารถแจ้งการครอบครองได้ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ ๑ – ๑๖ และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขาทุกแห่ง
--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--