การตัดสินคดีนายโอภาส ชาญสุกใส ในความผิดฐานละเมิดกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒

ข่าวต่างประเทศ Monday October 19, 2015 11:08 —กระทรวงการต่างประเทศ

ตามที่เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ ศาลทหารได้พิพากษาคดีนายโอภาส ชาญสุกใส ในความผิดฐานละเมิดกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ โดยตัดสินลงโทษจำคุก ๓ ปี แต่เนื่องจากจำเลยให้การสารภาพ จึงลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ทั้งนี้ โดยให้รับโทษต่อจากคดีแรกซึ่งจำเลยได้กระทำผิดฐานละเมิดกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ในปี ๒๕๕๗ ต้องโทษจำคุก ๓ ปีและศาลลดโทษลงกึ่งหนึ่งเหลือโทษจำคุก ๑ ปี ๖ เดือนเนื่องจากจำเลยให้การสารภาพ และมีกำหนดพ้นโทษในเดือนมกราคม ๒๕๕๙ นั้น

กระทรวงการต่างประเทศขอยืนยันว่า การพิจารณาคดีดังกล่าวดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายที่บริสุทธิ์และยุติธรม ทั้งนี้ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือ กฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ เป็นส่วนหนึ่งของประมวลกฎหมายอาญาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จากการกระทำฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้าย ในลักษณะเดียวกับกฎหมายหมิ่นประมาทที่ให้ความคุ้มครองบุคคลทั่วไป เพื่อรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการริดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด นอกจากนั้น ไทยยังมีความเป็นสากลในการให้ความคุ้มครองลักษณะคล้ายคลึงกันต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทของชาติอื่น รวมถึงผู้แทนของรัฐต่างประเทศประจำประเทศไทย ดังปรากฎตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๓๓ และมาตรา ๑๓๔ ทั้งนี้ การดำเนินคดีในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมีกระบวนการพิจารณาคดีเหมือนกับคดีอาญาโดยทั่วไป

สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันหลักของชาติที่สร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่น ประชาชนชาวไทยเคารพเทิดทูนและผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างยาวนานกว่า ๗๐๐ ปีถึงปัจจุบัน ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์คงมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเป็นศูนย์รวมที่หล่อหลอมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชนภายในชาติ การที่ไทยหรือชาติใดๆจะตรากฎหมายที่เหมาะสมเพื่อการปกป้องคุ้มครองสถาบันฯ ที่มีคุณูปการยิ่งต่อชาติบ้านเมืองจึงเป็นเรื่องปกติสามัญที่ชนในชาติพึงเคารพยึดปฎิบัติ

--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ