กระทรวงการต่างประเทศจัดงานเปิดตัวกิจกรรมรำลึกครบรอบ ๕๐ ปี ของการสถาปนาอาเซียน

ข่าวต่างประเทศ Monday February 6, 2017 13:28 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๐ กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ จัดงานเปิดตัวกิจกรรมรำลึกครบรอบ ๕๐ ปี ของการสถาปนาอาเซียน ณ วิเทศสโมสร โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิด และมีนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครรราชทูตสมปอง สุจริตกุล ผู้ยกร่างปฏิญญากรุงเทพที่ก่อตั้งอาเซียน อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตอธิบดีกรมอาเซียน และนายฐิระวุฒิ คอมันตร์ ทายาทของ ดร. ถนัด คอมันตร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศผู้ริเริ่มการก่อตั้งอาเซียน รวมทั้งคณะทูต ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน และอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษาจากทั่วประเทศ เข้าร่วมรวมประมาณ ๓๐๐ คน

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย

๑. พิธีส่งมอบเหรียญ ASEAN Tribute and Recognition for the Athletes of the Rio 2016 Olympics and Paralympics โดยอธิบดีกรมอาเซียนแก่อธิบดีกรมพลศึกษา ซึ่งจัดขึ้นก่อนพิธีเปิดงาน เหรียญดังกล่าวจัดทำโดยสำนักเลขาธิการอาเซียน เพื่อมอบให้แก่นักกีฬาจากประเทศสมาชิกอาเซียนที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ ๓๑ และกีฬาพาราลิมปิก ครั้งที่ ๑๕ ณ นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เพื่อเชิดชูเกียรตินักกีฬาที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันฯ โดยมีเอกอัครราชทูตบราซิลประจำประเทศไทยร่วมเป็นสักขีพยานด้วย ทั้งนี้ กรมพลศึกษาจะมอบเหรียญดังกล่าวให้แก่นักกีฬาไทยทั้ง ๒๓ คนต่อไป และนับว่าไทยเป็นประเทศที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน

๒. การสัมภาษณ์คนรุ่นใหม่เพื่อช่วยเพิ่มพูนความสนใจของสาธารณชนและสื่อมวลชนเกี่ยวกับอาเซียน และซุ้มกิจกรรมสำหรับเด็กนักเรียนจากโรงเรียนในเครือข่ายมูลนิธิยุวทูตความดี

๓. ปาฐกถาพิเศษในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี ของการสถาปนาอาเซียน หัวข้อ “ASEAN@50: For Now and Posterity” โดย ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดย ดร. สุรินทร์ฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมา อาเซียนสามารถดำเนินความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับประเทศนอกภูมิภาคได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ตรงข้ามกับสหภาพยุโรป กล่าวคือสหภาพยุโรปถือกำเนิดโดยประเทศมหาอำนาจและเปิดรับประเทศขนาดเล็กเข้ามาเป็นสมาชิก ขณะที่อาเซียนกำเนิดจากประเทศขนาดเล็กแต่สามารถดึงดูดประเทศมหาอำนาจเข้ามาดำเนินความสัมพันธ์ได้ จึงเห็นได้ชัดว่าอาเซียนเป็นเวทีเชื่อมโยงกับเวทีโลก อย่างไรก็ดี ขณะที่อาเซียนเข้าสู่ปีที่ ๕๐ นั้น ยังต้องรับมือและปรับตัวให้เข้ากับความท้าทายหลายมิติ เช่น ปัจจุบัน พหุภาคีนิยม (multilateralism) กำลังถูกท้าทายและสั่นคลอนอย่างมาก เห็นได้จากกรณีของสหภาพยุโรป และ

ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Economic Partnership) ทั้งนี้ หลังจากจบการปาฐกถา นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มอบโล่ที่ระลึกในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี ของการสถาปนาอาเซียนแก่ ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ด้วย

๔. งานเลี้ยงรับรองคณะทูตและผู้เข้าร่วมงานปาฐกถา (luncheon reception) โดยมีนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพ

๕. การจัด Open Roundtable ซึ่งเป็นการเสวนาระดมสมองในหัวข้อ “อาเซียนศึกษา: จากปัจจุบันสู่อนาคต” กับผู้แทนระดับสูงจากศูนย์อาเซียนศึกษาของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศและผู้สนใจจากวงการวิชาการ โดยการเสวนาครั้งนี้ สถาบันต่าง ๆ ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของอาเซียน และแผนการจัดกิจกรรมในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปีการสถาปนาอาเซียนในปี ๒๕๖๐ ซึ่งศูนย์อาเซียนศึกษาต่าง ๆ พร้อมจะส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอาเซียนให้กับคนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเสริมสร้างประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็ง

โดยที่ปี ๒๕๖๐ เป็นปีสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่อาเซียนก่อตั้งมาครบ ๕๐ ปี กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ จึงมีแผนจัดกิจกรรมรำลึกในโอกาสดังกล่าวตลอดทั้งปี โดยกิจกรรมในวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา เป็นกิจกรรมแรกของปีเพื่อรำลึกถึงกำเนิดของอาเซียนที่ประเทศไทย โดยการลงนามปฏิญญากรุงเทพ ณ วังสราญรมย์ เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๑๐ จนพัฒนามาเป็นประชาคมอาเซียนที่มีเอกภาพทางการเมือง มีการรวมตัวทางเศรษฐกิจ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ภายในห้วงระยะเวลา ๕๐ ปี ทั้งนี้ ปาฐกถา “ASEAN@50: For Now and Posterity” นับเป็นปาฐกถาแรกของ 50th Anniversary of ASEAN Lecture Series ซึ่งกรมอาเซียน มีแผนจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่าง ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับอาเซียนมาแสดงปาฐกถาตลอดทั้งปีนี้

อนึ่ง ผู้ที่สนใจสามารถรับชมคลิปวีดิโอของงานได้ที่ www.facebook.com/saranromradio

--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ