นายกรัฐมนตรีพบหารือกับประธานบริษัท Airbus Commercial Aircraft เพื่อพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา

ข่าวต่างประเทศ Monday June 25, 2018 13:31 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๑ นายกรัฐมนตรีพบหารือกับนาย Guillaume Faury ประธานบริษัท Airbus Commercial Aircraft ที่สำนักงานใหญ่บริษัท Airbus เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อหารือเกี่ยวกับการลงทุนของ Airbus ในการสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงท่าอากาศยานอู่ตะเภา

นายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้บริษัท Airbus ทราบถึงนโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายของนโยบายดังกล่าว คือการพัฒนาประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการบินและการซ่อมบำรุงเครื่องบิน ซึ่งบริษัท Airbus ได้แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย ที่จะยกระดับการพัฒนาของประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการบินแบบครบวงจรของภูมิภาค และพร้อมสนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาลให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

นาย Guillaume แจ้งว่า ปัจจุบัน Airbus มีศูนย์ข้อมูลและความร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนอากาศยานในไทยกว่า 10 บริษัท ซึ่งบางส่วนได้ตั้งอยู่ในเขต EEC อยู่แล้ว และพร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบุคลากรไทย โดยจะร่วมพัฒนาบุคลากร ทั้งในด้านการซ่อมบำรุง เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ และการต่อยอดอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ไทยมีศักยภาพอยู่แล้ว สู่อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานในอนาคต

ภายหลังการหารือ ได้มีพิธีการลงนาม Joint-Venture Company Principles Agreement สำหรับการสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ระหว่างบริษัท การบินไทย กับบริษัท Airbus ซึ่งจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนให้เกิดธุรกิจอื่น ๆ ในระดับ SME ในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมการบินต่อไป โดยทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการให้ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภาสามารถเปิดให้บริการได้โดยเร็ว

นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเชื่อมั่นกับบริษัท Airbus ว่า รัฐบาลจะดำเนินนโยบายพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดย Airbus จะได้รับประโยชน์ ไม่เฉพาะกับการลงทุนในไทยเท่านั้น แต่ยังจะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งไทยเป็นศูนย์กลางทั้งในกรอบ ACMECS และ ASEAN โดยประเทศสมาชิก ACMECS เพิ่งให้การรับรองแผนแม่บท ACMECS ในการประชุมที่กรุงเทพฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และในโอกาสที่ไทยกำลังจะเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า ไทยจะผลักดันนโยบายการเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิกเช่นกัน ซึ่งการลงทุนของ Airbus ในไทยก็จะได้รับประโยชน์จากความเชื่อมโยงนี้ด้วย

ที่มา: กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ