การฉลองวาระ 333 ปี ราชทูตสยามเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 4, 2019 14:30 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562 กระทรวงการต่างประเทศได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “การฉลองในวาระ333 ปี ราชทูตสยามเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส” (333 Years: Siamese Envoy to France) โดยนายศศิวัฒน์ ว่องสินสวัสดิ์ อธิบดีกรมยุโรป และนายฌาก ลาปูฌ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ

“การฉลองในวาระ 333 ปี ราชทูตสยามเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส” จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์การทูตของไทยในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ออกพระวิสุทสุนทร (หรือ โกษาปาน) ได้นำคณะราชทูตสยามไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส และได้เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2229 เหตุการณ์ดังกล่าวนับว่ามีคุณค่าในเชิงประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันในหลายมิติ

กิจกรรมเพื่อรำลึกถึงในวาระ 333 ปี ราชทูตสยามเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส จะจัดขึ้นทั้งที่ประเทศไทยและฝรั่งเศส ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ได้เริ่มจัดกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว ดังนี้

1. จัดทำตราสัญลักษณ์ เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือระหว่างกัน

2. จัดพิมพ์หนังสือที่ระลึก “333 ปี ราชทูตสยามเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส” ซึ่งจะจัดทำในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ด้วย

3. การบรรยายเชิงวิชาการเกี่ยวกับวาระ 333 ปี ราชทูตสยามเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส

4. การลงนามในบันทึกความร่วมมือ (Memorandum of Cooperation) ระหว่างกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) และ Agence Fran?aise de D?veloppement (AFD) ประจำประเทศไทย เพื่อแสดงถึงเจตนารมณ์ในการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในส่วนของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ร่วมกับสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพฯ มีแผนการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจหลายรายการเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญนี้ อาทิ งานแสดงดนตรียุคบาโรค การจัดฉายภาพยนตร์พร้อมเสวนาในหัวข้อพระราชวังแวร์ซายส์และราชสำนัก การเผยแพร่ศิลปะการแสดงศิลปร่วมสมัย และวัฒนธรรมด้านอาหารของฝรั่งเศส

กระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญชวนภาคเอกชนและองค์กรต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ฉันมิตรอันยาวนานระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในครั้งนี้ด้วย

ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ