อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคของไทย เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคสมัยพิเศษ เรื่องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ผ่านการประชุมระบบทางไกล สนับสนุนให้เอเปคส่งเสริมและรักษาระบบการค้าแบบพหุภาคี และเสนอให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างศักยภาพให้ธุรกิจ SME และเร่งฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวในภูมิภาค
เมื่อวันพุธที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๓ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคของไทย เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคสมัยพิเศษ เรื่องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ผ่านการประชุมระบบทางไกล
การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคสมัยพิเศษนี้ จัดขึ้นโดยมาเลเซีย เจ้าภาพเอเปคในปีนี้ เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือของเอเปคในการรับมือและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ตามข้ออาณัติในถ้อยแถลงของรัฐมนตรีการค้าเอเปค (อ่านถ้อยแถลงของรัฐมนตรีการค้าเอเปคที่ http://apec.org/Meeting-Papers/Sectoral-Ministerial-Meetings/Trade/2020_trade) โดยมีวาระการหารือที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การพิจารณาข้อเสนอในเรื่องที่เกี่ยวกับการค้า เช่น การอำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายเครื่องมือและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ การจัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-๑๙ และการจัดทำฐานข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับนโยบายในการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ของเอเปค และ (๒) การดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารวิสัยทัศน์เอเปคภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๒๐ (APEC Post-2020 Vision) ซึ่งเป็นเอกสารวิสัยทัศน์ของเอเปคภายหลังจากที่เป้าหมายโบกอร์สิ้นสุดลง รวมทั้งพิจารณาแผนงานและการจัดประชุมเอเปคในปี ๒๕๖๓
ในโอกาสนี้ ไทยได้กล่าว (๑) สนับสนุนให้เอเปคมุ่งส่งเสริมและรักษาระบบการค้าแบบพหุภาคี การเปิดตลาด และความเชื่อมโยงของห่วงโซอุปทานภายในภูมิภาค (๒) เสนอให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างศักยภาพให้ธุรกิจ SME และเร่งฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวในภูมิภาค และ (๓) สนับสนุนให้เอเปคสานต่อการประชุมในปี ๒๕๖๓ และผลักดันการจัดทำและรับรองเอกสารวิสัยทัศน์เอเปคภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๒๐ ให้สำเร็จภายในปีนี้ เพื่อรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินงาน และสะท้อนความเชื่อมโยงของเอเปคต่อบริบทโลกปัจจุบัน
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ