ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเสนอหลัก ?3C? : Complementarities (เกื้อกูล) ? Connectivity (เชื่อมโยง) ? Coordination (ประสานงาน)เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือเรื่องการส่งเสริมการพัฒนาในอนุภูมิภาคในอาเซียนในการประชุม ?ASEAN High-level Forum on Sub-regional Cooperation for Sustainable Development and Inclusive Growth?
เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในการประชุม ?ASEAN High-level Forum on Sub-regional Cooperation for Sustainable Development and Inclusive Growth? ซึ่งจัดขึ้นโดยเวียดนาม ในรูปแบบผสมผสาน (hybrid) โดยไทยในฐานะสมาชิกกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS) ได้รับเชิญให้กล่าวถ้อยแถลงในช่วงที่ ๑ ของการประชุม ภายใต้หัวข้อ ?Recovering together: Advacning sub-regional cooperation in ASEAN?
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศย้ำถึงความจำเป็นที่อาเซียนจะต้องร่วมผลักดันความร่วมมือในการพัฒนาในอนุภูมิภาคให้สอดคล้องกับบริบทของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในโลก (Mega-Trends) อาทิ การเปลี่ยนผ่าน สู่ดิจิทัล และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-๑๙ โดยเสนอหลัก ?3C? ซึ่งประกอบด้วย (๑) ?Complementarities? หรือ ?ความเกื้อกูล? ระหว่างยุทธศาสตร์การพัฒนาในกรอบอนุภูมิภาคต่าง ๆ กับข้อริเริ่มด้านการพัฒนาในอาเซียน (๒) ?Connectivity? หรือ ?ความเชื่อมโยง? ระหว่างการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค และแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ. ๒๐๒๕ (Master Plan on ASEAN Connectivity (MPAC) 2025) โดยเน้นการพัฒนาทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบ และดิจิทัล และ (๓) ?Coordination? หรือ ?การประสานงาน? ส่งเสริมความร่วมมือและการทำงานร่วมกันระหว่างกรอบอนุภูมิภาคและอาเซียน รวมทั้งกับภาคีภายนอก และภาคเอกชน รวมทั้งเน้นย้ำถึงบทบาทของกรอบ ACMECS เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามหลัก ?3C? และขับเคลื่อนประเด็นสำคัญเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
การประชุมครั้งนี้ เป็นข้อริเริ่มของเวียดนามในฐานะประธาน Initiative for ASEAN Integration (IAI) Taskforce ปี ๒๕๖๔ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาค ภาคีภายนอก องค์การระหว่างประเทศ ภาควิชาการ และภาคธุรกิจ เกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายในอนุภูมิภาคในอาเซียน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำประเด็นสำคัญ อาทิ การส่งเสริมความสอดคล้องระหว่างยุทธศาสตร์การพัฒนาของอาเซียนกับกรอบอนุภูมิภาค ความร่วมมือกับภาคีภายนอกและภาคเอกชน และการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านสาธารณสุข ดิจิทัล ความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน การพัฒนาที่ยั่งยืน และการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวและคาร์บอนต่ำ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูจากโควิด-๑๙ อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ