ความเห็นต่อถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 51

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 15, 2008 07:22 —กระทรวงการต่างประเทศ

นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวต่อถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2551 ว่า ประเทศไทยรู้สึกประหลาดใจที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ยื่นคำขาดต่อประเทศไทยให้ถอนกำลังทหารของไทยออกจากดินแดนที่ติดกับปราสาทพระวิหารและขู่จะใช้กำลังหากไม่ดำเนินการ ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าสวนทางกับการอยู่ร่วมกันฉันเพื่อนบ้านที่ดี และขัดต่อสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน นอกจากนี้ ยังขัดกับแนวทางสากลในการแก้ปัญหาในระดับทวิภาคีโดยใช้แนวทางสันติ ซึ่งระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ

ประเทศไทยได้พยายามอย่างต่อเนื่องที่จะแก้ไขปัญหาเขตแดนกับกัมพูชาโดยสันติวิธี ผ่านกลไกการเจรจาทวิภาคี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีความคืบหน้าที่น่าพอใจ ในการนี้ ทหารของทั้งสองฝ่ายยังได้ตกลงที่จะจัดการประชุมสมัยพิเศษของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคในวันที่ 21 ตุลาคม 2551 โดยก่อนหน้านั้น จะมีการประชุมฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคในวันที่ 15 ตุลาคม 2551 ด้วย

ในระหว่างนี้ ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องดำเนินการเก็บกู้กับระเบิดตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิด (อนุสัญญาออตตาวา) ในพื้นที่ที่ติดกับปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายจะสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนโดยคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ซึ่งตั้งขึ้นตามบันทึกความเข้าใจที่ลงนามกันระหว่างสองประเทศเมื่อปี 2543 การเก็บกู้กับระเบิดในบริเวณดังกล่าวเป็นเรื่องจำเป็นและมีความเร่งด่วนเพื่อที่จะประกันความปลอดภัยให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ทหารที่สัญจรในพื้นที่ดังกล่าว และความจำเป็นเร่งด่วนของเรื่องนี้ยิ่งเห็นได้ชัดหลังจากที่ทหารพรานของไทยสองนายได้รับบาดเจ็บขาขาดจากการเหยียบกับระเบิดในบริเวณนั้นเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในดินแดนของไทยตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 ฝ่ายไทยกำลังตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า กับระเบิดในพื้นที่ดังกล่าวเป็นกับระเบิดที่มีอยู่เดิมหรือวางขึ้นใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิด

หากฝ่ายกัมพูชาหันไปใช้กำลังในการแก้ปัญหาตามที่ได้มีการยื่นคำขาด ฝ่ายไทยก็จำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ เพื่อปกป้องบุคลากรที่ทำการเก็บกู้กับระเบิดและอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย

ประเทศไทยได้เรียกร้องมาโดยตลอดและยังคงยืนยันที่จะแก้ปัญหาเขตแดนกับกัมพูชาโดยสันติวิธีผ่านช่องทางการหารือในระดับทวิภาคีภายใต้กรอบและกลไกต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและกัมพูชาได้ตกลงกันในการประชุมที่เมืองเสียมราฐ และ อ.ชะอำ เ มื่อวันที่ 28 กรกฎาคม และ 19 สิงหาคม ตามลำดับ ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างถึงที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะมีการเผชิญหน้าด้วยกำลังอาวุธ ซึ่งเรื่องนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ย้ำกับฝ่ายกัมพูชาในระหว่างการเยือนกัมพูชา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2551 ด้วย ไทยได้ยึดตามความมุ่งมั่นดังกล่าวนี้อย่างเคร่งครัดและหวังว่า กัมพูชาจะทำเช่นเดียวกัน

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ