เปิดตัวแผนฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมหลังภัยพิบัติไซโคลนนาร์กีส

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 สำนักงานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) กรุงเทพฯ ได้จัดพิธีเปิดตัวแผนฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมหลังภัยพิบัติไซโคลนนาร์กีส (Post-Nargis Recovery and Preparedness Plan - PONREPP) โดยมีนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน และผู้แทนของกลุ่มสามฝ่ายอาเซียน-พม่า-สหประชาชาติ (Tripartite Core Group - TCG) ในการฟื้นฟูพื้นที่และช่วยเหลือประชาชนพม่าที่ประสบภัยจากไซโคลนนาร์กีส อันได้แก่ นายจ่อ ตู ประธานคณะกรรมการคัดเลือกและฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รัฐ (Chairman of the Civil Service Selection and Training Board) ของพม่า / รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศพม่า ในฐานะประธาน TCG นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง และนาย Bishow Parajuli UN Resident/Humanitarian Coordinator in Myanmar กล่าวนำ และมีคณะทูตานุทูตประจำกรุงย่างกุ้งและกรุงเทพฯ เข้าร่วมงานด้วย ประมาณ 150 คน

ในโอกาสนี้ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนกล่าวว่า PONREPP เป็นความสำเร็จของ TCG ซึ่งเป็นกลไกที่อาเซียนมีบทบาทนำ ทั้งนี้ PONREPP เป็นแผน 3 ปี (พ.ศ. 2552-2554) เน้นการบูรณะฟื้นฟูใน 8 ด้านคือ การประกอบอาชีพ ที่หลบภัย การศึกษา สาธารณสุข น้ำและสุขอนามัย การลดความเสี่ยงภัยพิบัติ สิ่งแวดล้อม และการคุ้มครองกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ โดย PONREPP จะช่วยสนับสนุนแผนบูรณะฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยของรัฐบาลพม่าด้วย โดยใน 9 เดือนที่ผ่านมา PONREPP ประสบความสำเร็จอย่างมากบนพื้นฐานความเป็นหุ้นส่วนของสามฝ่าย อาเซียนพร้อมที่จะร่วมมือกับ TCG ต่อไป ที่ผ่านมาอาเซียนได้สนับสนุน TCG ดำเนินโครงการนำร่องพัฒนาหมู่บ้านที่ประสบภัยไซโคลนนาร์กีสที่หมู่บ้านเส็ก จี โดยนำเยาวชนอาเซียนเข้าร่วมด้วย

นายนพพร อัจฉริยวนิช ผู้แทนจากกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวว่า ไทยมีความยินดีที่การจัดทำ PONREPP สำเร็จ โดยไทยมองว่า PONREPP เป็นก้าวสำคัญของการจัดการภัยพิบัติ ซึ่งไม่เพียงแค่สำหรับพม่า แต่จะมีผลต่อการจัดการภัยพิบัติของอาเซียนในภูมิภาคด้วย ไทยมีความชื่นชมในการทำงานของ TCG ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเป็นหุ้นส่วนกันระหว่างอาเซียน รัฐบาลพม่า และหน่วยงานของสหประชาชาติ และหวังว่าจะมีการดำเนินงานตาม PONREPP เพื่อให้ประชาชนชาวพม่าที่ประสบภัยได้กลับมามีชีวิตที่ดี และได้รับความคุ้มครอง

อนึ่ง ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือชาวพม่าที่ประสบภัยจนถึงบัดนี้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 595 ล้านบาท) และกำลังจะช่วยเหลือพม่าในการสร้างที่หลบภัย 2 แห่ง สถานีอนามัย 2 แห่ง และสนับสนุนการปรับปรุงธนาคารเลือดที่โรงพยาบาลกลางในกรุงย่างกุ้ง โดยดำเนินงานโครงการข้างต้นในพระนามของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--