รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 2, 2010 12:03 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553

Summary:

1. กระทรวงพาณิชย์ เผยอัตราเงินเฟ้อในเดือนต.ค.53 ขยายตัวร้อยละ 0.28 ต่อปี

2. ธปท.ยันไม่ออกมาตรการคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์

3. อุตสาหกรรมจีนขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 เดือน

Highlight:
1. กระทรวงพาณิชย์ เผยอัตราเงินเฟ้อในเดือนต.ค.53 ขยายตัวร้อยละ 0.28 ต่อปี
  • กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค.53 อยู่ที่ 108.52 ขยายตัวร้อยละ 2.8 ต่อปี และขยายตัวร้อยละ 0.03 จากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ CPI ช่วง 10 เดือนแรกปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 3.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) ไม่รวมสินค้าอาหารสดและพลังงานอยู่ที่ 103.83 ขยายตัวร้อยละ 1.1 ต่อปี จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ส่งผลให้ Core CPI ช่วง 10 เดือนแรกปี 2553 ขยายตัวร้อยละ 0.9 ต่อปี ทั้งนี้ พณ.และธปท. คาดว่า ผลกระทบจากน้ำท่วมจะไม่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อมากนักและไม่หลุดกรอบเงินเฟ้อที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี
  • สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือนต.ค.53 ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 โดยสาเหตุสำคัญมาจากการปรับราคาสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อยละ 5.5 ต่อปี ได้แก่ ดัชนีหมวดข้าว แป้ง ผลิตภัณฑ์จากแป้ง เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ ไข่ ผลิตภัณฑ์นม และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สะท้อนว่าการขยายตัวเศรษฐกิจด้านการบริโภคในประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่ปัญหาน้ำท่วมคาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปทานพืชผลทางการเกษตรที่จะขาดแคลน และจะส่งผลให้ราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนพ.ย. 53 ทั้งนี้ สศค.คาดว่าเงินเฟ้อปี 53 และ 54 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.4 และ 3.5 ต่อปี ตามลำดับ (คาดการณ์ ณ ก.ย. 53)
2. ธปท.ยันไม่ออกมาตรการคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์
  • ธปท.ยันขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการควบคุมสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์หรือผู้บริโภคที่ต้องการกู้ซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากสัญญาณปัญหายังไม่ชัดเจน และไม่เกิดภาวะฟองสบู่ แต่จำเป็นต้องจับตาใกล้ชิด และดูแลให้การปล่อยกู้สินเชื่อมีคุณภาพ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เมื่อพิจารณาตัวชี้วัดการลงทุนในการก่อสร้างภาคเอกชน ซึ่งมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 20 ของการลงทุนในภาคเอกชนทั้งหมด พบว่าถึงแม้มีการขยายตัวต่อเนื่องนับจากต้นปี 53 เป็นต้นมา โดยขยายตัวร้อยละ 9.0 ต่อปี ในช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาสที่ 3 มีสัญญาณที่แผ่วลง สะท้อนจากยอดขายปูนซีเมนต์ที่ชะลอตัวลงมาขยายตัวเพียงร้อยละ 3.0 ต่อปี จากร้อยละ 11.1 ต่อปี ในไตรมาส 2 สะท้อนว่าภาคอสังหาฯน่าจะยังไม่เกิดปัญหาฟองสบู่ในระยะเวลานี้ ไม่ว่าจะในประเด็นด้านราคา ปริมาณ การเก็งกำไร หรือภาระหนี้ภาคครัวเรือนก็ตาม
3. อุตสาหกรรมจีนขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 เดือน
  • สำนักงานสถิติจีน เปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคอุตสาหกรรม(Manufacturing PMI) ในเดือน ต.ค. 53 อยู่ที่ระดับ 54.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 53.8 สอดคล้องกับดัชนีที่จัดทำโดย HSBC ที่อยู่ที่ระดับ 54.8 เพิ่มขึ้นมากจากระดับ 52.9 ในเดือนก่อนหน้า บ่งชี้ถึงภาคอุตสาหกรรมจีนที่ยังคงแข็งแกร่ง
  • สศค.วิเคราะห์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคอุตสาหกรรมที่อยู่ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมจีนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องท่ามกลางปัญหาค่าเงินในภูมิภาครวมถึงค่าเงินหยวนแข็งค่า โดยดัชนียอดคำสั่งซื้อใหม่อยู่ในระดับสูง ซึ่งได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ภายในประเทศโดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ยอดคำสั่งสินค้าส่งออกเริ่มขยายตัวชะลอลงสะท้อนกำลังซื้อจากต่างประเทศที่ชะลอตัวจากทั้งปัจจัยค่าเงินและเศรษฐกิจโลกยังคงฟื้นตัวอย่างเปราะบาง ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวสูงย่อมส่งผลดีต่อไทย ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 53 ไทยส่งออกไปยังจีนถึงร้อยละ 10.8 ของมูลค่าส่งออกรวมทำให้จีนกลายเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ในช่วง 3 ไตรมาสแรก โดยอุตสาหกรรมของไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนสูง เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ยางพารา และเคมีภัณฑ์ น่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคอุตสาหกรรมจีนอีกด้วย

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:

Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665: www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ