Macro Morning Focus ประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2553
Summary:
1. นิด้ามองเศรษฐกิจไทยปี 54 ขยายตัวร้อยละ 4.0 ต่อปี
2. FTA ช่วยส่งออกไทย 5.05 หมื่นล้านบาท
3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือน ธ.ค.53 ลดลง
Highlight:
1. นิด้ามองเศรษฐกิจไทยปี 54 ขยายตัวร้อยละ 4.0 ต่อปี
- สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจโลกและไทยในปี 2554 ว่า เศรษฐกิจโลกจะยังคงอยู่ในทิศทางชะลอตัวลงอันเนื่องจากภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง โดยเฉพาะสหรัฐฯ และประเทศในยุโรปที่มีปํญหาหนี้สาธารณะ ทำให้คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.0-3.5 ต่อปี ในขณะที่เศรษฐกิจไทยจะมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.0 ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงจากปี 2553 ที่อยู่ที่ระดับร้อยละ 7.0 ต่อปี โดยไทยจะเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงในเรื่องภาวะเงินเฟ้อ และแนวโน้มของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- สศค.วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2554 จะได้รับแรงส่งสำคัญจากการบริโภคภายในประเทศที่ได้รับผลดีจากการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างทั่วประเทศและการปรับขึ้นอัตราเงินเดือนของข้าราชการ ตลอดจนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลที่ส่งเสริมการเพิ่มรายได้เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายภายในประเทศแม้ว่าในปี 54 เศรษฐกิจไทยจะต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต และค่าเงินบาทที่ยังคงผันผวนจากเงินทุนไหลเข้าในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งปัจจัยทางด้านการเมืองซึ่งจะมีการเลือกตั้งใหม่ในปี 54 สศค. คาดว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2554 จะสามารถเติบโตได้ดีที่ระดับร้อยละ 4.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 4.0-5.0 ต่อปี) (คาดการณ์ ณ เดือน ธ.ค.53)
2. FTA ช่วยส่งออกไทย 5.05 หมื่นล้านบาท
- สำนักเศรษฐกิจอุตสาหกรรมระหว่างประเทศสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาปรเทศไทย (TDRI) เปิดเผยในงานสัมมนาเรื่อง ติดตามการใช้สิทธิประโยชน์ภาคอุตสาหกรรมจากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ในการติดตามผลกระทบและการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA ที่ประเทศไทยได้ทำร่วมกับประเทศคู่ค้าสำคัญต่างๆ โดยพบว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 53 ไทยมีการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภาคส่งออกสูงถึง 5.05 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่จำนวน 1.45 หมื่นล้านบาท
- สศค. วิเคราะห์ว่า การทำข้อตกลงการค้าเสรีจะเป็นการกระตุ้นการส่งออกที่ดีสำหรับประเทศไทย เนื่องจากจะทำให้สามารถประหยัดภาษีศุลกากรได้ เช่น ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) สามารถประหยัดได้มูลค่ากว่า 3.49 หมื่นล้านบาท และข้อตกลงไทย-ออสเตรเลีย มูลค่า 5,191 ล้านบาท เป็นต้น ในขณะสินค้าที่ได้รับประโยชน์จาก FTA สูงสุดทั้งการส่งออกและนำเข้า คือ สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ มาตรการดังกล่าวส่งผลให้การส่งออกไทยปรับตัวดีขึ้น โดยจากข้อมูลการส่งออกสินค้าล่าสุดในเดือน พ.ย. 53 ขยายตัวร้อยละ 28.5 ต่อปี โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นในทุกหมวดสินค้าส่งออกและแทบทุกตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ สศค. คาดว่าการส่งออกของไทยในปี 54 จะขยายตัวร้อยละ 13.20 ต่อปี โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 12.2 — 14.2 ต่อปี
3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือน ธ.ค. ลดลง
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯซึ่งจัดทำโดยคอนเฟอเรนซ์บอร์ด เดือน ธ.ค. ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 52.5 ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปที่ 55.8 เนื่องจากก่อนหน้านี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯจำนวนมากบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีการฟื้นตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนีราคาอสังหาริมทรัพย์เดือน ต.ค. ลดลงร้อยละ 0.8 ต่อปี ส่งสัญญาณว่า การฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯยังมีทิศทางไม่ชัดเจน
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯที่ลดลงจากระดับ 54.3 ในเดือน พ.ย. 53 มาอยู่ที่ 52.5 ในเดือน ธ.ค.53 สะท้อนความวิตกกังวลของผู้บริโภคเนื่องจากภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากทางการประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ย. 53 ออกมาว่าเพิ่มขึ้นเพียง 39,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าเดือน ต.ค. 53 ที่เพิ่มขึ้นมากถึง 172,000 ตำแหน่ง ส่วนดัชนีราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงลดลง แสดงให้เห็นว่าปริมาณอสังหาริมทรัพย์ที่รอการขายทอดตลาดยังมีอยู่สูง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่งเพื่อกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ สศค.คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวได้ที่ ร้อยละ 2.7 ต่อปี ฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่หดตัวร้อยละ -2.4 ต่อปี
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th