Macro Morning Focus ประจำวันที่ 8 เมษายน 2554
Summary:
1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค.54 ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 อยู่ที่ระดับ 71.0
2. ผู้ค้าน้ำมันเอกชนในประเทศไทยปรับขึ้นราคาน้ำมัน
3. อัตราการว่างงานออสเตรเลียเดือน มี.ค. 54 อยู่ระดับร้อยละ 4.9
Highlight:
1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค.54 ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 อยู่ที่ระดับ 71.0
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน มี.ค.54 ว่าอยู่ที่ระดับ 71.0 ลดลงจากระดับ 72.2 ในเดือน ก.พ.54 ปัจจัยลบที่มีผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ได้แก่ ความกังวลต่อปัญหาภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอาจกระทบการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทย ความกังวลต่อสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่ยังปรับตัวสูงขึ้น ปัญหาค่าครองชีพ สถานการณ์ทางการเมืองในอนาคต และปัญหาความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
- สศค. วิเคราะห์ว่าการปรับลดลงของดัชนีดังกล่าวสะท้อนถึงความกังวลของประชาชนที่มีต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม กล่าวคือ ปัจจัยต่างๆที่เกิดจากทั้งในและต่างประเทศ อันได้แก่ อุทกภัยทางภาคใต้ที่ส่งผลให้พื้นที่เกษตรกรรมเสียหาย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป ได้ส่งผลให้แรงกดดันจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สศค. คาดว่า ในปี 54 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (ช่วงคาดการณ์ 3.1-4.1)
2. ผู้ค้าน้ำมันเอกชนในประเทศไทยปรับขึ้นราคาน้ำมัน
- ในวันที่ 7 เม.ษ. 54 ผู้ค้าน้ำมันเอกชน ในประเทศไทย ได้แก่ ปิโตรนาส คาลเท็กซ์ และเอสโซ่ ได้ขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน 40 สตางค์ ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศสร้างสถิติสูงสุดอีกครั้ง โดยน้ำมันในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 49.4 บาท น้ำมันเบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 43.24 บาท แก็สโซฮอลล์ 95 ลิตรละ 38.34 บาท และแก็สโซฮอลล์ 91 ลิตรละ 35.84 บาท โดยการปรับขึ้นราคาน้ำมันในครั้งนี้ เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบโลก ไม่ว่าจะเป็นราคาตลาด West Texas และ Brent ต่างปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า ในระยะสั้นนั้น การปรับตัวเพิ่มขึ้นของน้ำมันเบนซินชนิดต่าง ๆ จากราคาน้ำมันโลกที่เพิ่มสูงขึ้นอาจจะส่งผลเชิงลบต่อภาคการบริโภคเอกชนผ่านอำนาจการซื้อที่ลดลงของประชาชน ในขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลที่ยังคงไว้ที่ระดับ 30 บาทต่อลิตร น่าที่จะเป็นการชะลอการส่งผ่านต้นทุนของผู้ผลิตต่อผู้บริโภคและแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในระยะต่อไปจะต้องมีการติดตามเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิดเนื่องจากการปรับขึ้นของนำมันดิบในตลาดโลกจะส่งผลโดยตรงต่อราคาน้ำมันที่ขายในประเทศ ทั้งนี้ สศค. คาดว่าทั้งปี 54 ราคาน้ำมันดิบดูไบจะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะขยายตัวร้อยละ 3.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
3. อัตราการว่างงานออสเตรเลียเดือน มี.ค. 54 อยู่ระดับร้อยละ 4.9
- อัตราการว่างงานออสเตรเลียเดือน มี.ค. 54 ปรับตัวลดลงมาอยู่ระดับร้อยละ 4.9 ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่ตัวเลขการจ้างงานโดยรวม ในเดือน มี.ค.54 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 37,000 ตำแหน่ง หลังจากเดือนก่อนหน้าปรับตัวลดลง 8,600 ตำแหน่ง โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการจ้างงานแบบเต็มเวลา (Full-time Employment) สะท้อนถึงสภาวะที่แข็งแกร่งของตลาดแรงงานออสเตรเลีย
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากตัวเลขการจ้างงานโดยรวมของประเทศออสเตรเลียที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นและอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง เป็นการบ่งชี้ถึงการขยายตัวที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจออสเตรเลีย ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวในระดับสูงของภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่ (Mining Sector) ที่คิดเป็นร้อยละ 26.4 ของภาคอุปทาน โดยความเสี่ยงของเศรษฐกิจออสเตรเลียในระยะต่อไปยังคงเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงสุดตามค่าจ้างแรงงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภาวะตรึงตัวในภาคแรงงาน
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group:
Fiscal Policy Office Tel. 02-273-9020 Ext.3665 : www.fpo.go.th