นายโชติชัย   สุวรรณาภรณ์   ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่  13  พฤศจิกายน  2550   คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเรื่องการจัดทำรายงานการเงินแผ่นดินตามแนวทางที่กระทรวงการคลังเสนอ  ดังมีรายละเอียดดังนี้          เรื่องเดิม          คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่  22  กรกฎาคม  2546  เห็นชอบให้จัดทำโครงการเปลี่ยนระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์  (GFMIS)  ตั้งแต่วันที่  1  ตุลาคม  2547  (ปีงบประมาณ  พ.ศ.  2548)  เป็นต้นไป          เหตุผลความจำเป็น          การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลถึงหลักการจัดทำรายงานการเงินแผ่นดิน  ซึ่งจะต้องนำรายงานการเงินตามเกณฑ์คงค้างของหน่วยงานภาครัฐที่เป็นส่วนราชการ  องค์กรอิสระ  องค์การมหาชน  ตลอดจน  กองทุนเงินนอกงบประมาณมาจัดทำงบการเงินรวมของแผ่นดิน  (Consolidated  Financial  Statements)  โดยในช่วงระยะแรกของการปฏิบัติงานยังมีข้อผิดพลาดคลาดเคลื่อนของข้อมูล  ส่งผลให้กระทรวงการคลังไม่อาจจัดทำรายงานการเงินแผ่นดินส่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)  ตรวจสอบรับรองได้          ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย          ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ  พ.ศ.  2502  มาตรา 21 (1)  กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจัดให้มีการประมวลบัญชีการเงินแผ่นดิน  และมาตรา  30  กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศรายงานการรับจ่ายเงินประจำปีงบประมาณที่สิ้นสุดในราชกิจจานุเบกษาโดยมิชักช้าและรายงานการรับจ่ายประจำปี  เมื่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว  ให้รายงานผลการตรวจสอบเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอรัฐสภา          กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางยังไม่สามารถจัดทำรายงานการเงินแผ่นดินประจำปีงบประมาณ  พ.ศ.  2548  ส่งให้ สตง.  ตรวจสอบเนื่องจากข้อมูลในรายงานการเงินยังมีความผิดปกติที่เป็นสาระสำคัญ  สำหรับปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นมีดังนี้          1.  ระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์  (GFMIS)  ในช่วงระยะแรกอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  การนำระบบออกใช้โดยที่ระบบยังไม่มีความสมบูรณ์เพียงพอ  และขาดการทดสอบก่อนการใช้จริงทั้งระบบ          2.  การเริ่มปฏิบัติงานในระบบ  GFMIS   ในปีงบประมาณ  พ.ศ.  2548  ได้กำหนดหน่วยงานภาครัฐเป็นหน่วยงานนำร่องที่จะให้ปฏิบัติงานในระบบ  GFMIS  เพียงระบบเดียว  โดยแบ่งตามความพร้อมของหน่วยงานออกเป็น  4  กลุ่ม  คือ          กลุ่มที่  1  จำนวน  25  หน่วยงานเริ่มต้นการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่  1  ธันวาคม  2547          กลุ่มที่  2  จำนวน  84  หน่วยงานเริ่มต้นการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่  1  มกราคม  2548          กลุ่มที่  3  จำนวน  71  หน่วยงานเริ่มต้นการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่  1  กุมภาพันธ์  2548          กลุ่มที่  4  จำนวน  111  หน่วยงานที่เหลือทั้งหมด  เริ่มต้นการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่  1             มีนาคม  2548          ซึ่งการเริ่มปฏิบัติงานในระบบ  GFMIS  ไม่พร้อมกัน  เป็นผลให้ข้อมูลในช่วงที่หน่วยงานยังปฏิบัติตามระบบเดิมไม่มีข้อมูลในระบบ  GFMIS  หรือมีแต่ไม่ครบถ้วน          3.  บุคลากรของหน่วยงานภาครัฐยังขาดความรู้และความเข้าใจในระบบ  และวิธีการปฏิบัติงานเนื่องจากผ่านการอบรมในระยะเวลาสั้นและอบรมได้ไม่ทั่วถึงทุกคน  จึงทำให้การปฏิบัติงานมีข้อผิดพลาด          อย่างไรก็ตาม  ข้อปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวข้างต้น  กระทรวงการคลังได้พยายามหาทางแก้ไขปัญหาตลอดเวลา  ประกอบกับคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่  7  พฤศจิกายน  2549  ให้โอนงานระบบ  GFMIS  มาอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง  และกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงและพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  ดังนั้น  เพื่อการแก้ไขปัญหาการจัดทำรายงานการตรวจเงินแผ่นดินประจำปีงบประมาณ  พ.ศ.  2548  และ  พ.ศ.  2549  กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้หารือกับ  สตง.  ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว  จึงได้กำหนดแนวทางให้ส่วนราชการปฏิบัติ  ดังนี้          1.  ให้ส่วนราชการในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคตรวจสอบข้อผิดพลาดทางบัญชีที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ  พ.ศ.  2548  และ  พ.ศ.  2549  จากงบทดลองในระบบ  GFMIS  โดยเฉพาะข้อผิดพลาดที่เกี่ยวกับบัญชีเงินสด  บัญชีเช็คในมือ  บัญชีเงินฝากธนาคาร  บัญชีเงินฝากคลัง  บัญชีลูกหนี้  และบัญชีเจ้าหนี้          2.  ให้ส่วนราชการต้นสังกัดรวบรวมข้อผิดพลาดดังกล่าวเพื่อจัดทำกระดาษทำการปรับปรุงบัญชีนอกระบบ  GFMIS  ตามวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนดและจัดทำงบการเงินประจำปีงบประมาณ  พ.ศ.  2548  และ  พ.ศ.  2549  จากระดาษทำการดังกล่าวส่งให้  สตง.  ตรวจสอบและรับรองภายในเดือนกุมภาพันธ์  2551          3.  ให้ส่วนราชการนำข้อผิดพลาดทางบัญชีดังกล่าวมาแก้ไขในระบบ  GFMIS  ตามวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด  หลังจากมีการพัฒนาระบบให้รองรับการแก้ไขแล้ว