นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2550 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วรวม 2 ฉบับ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป และเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะทำงานตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ โดยมอบให้กระทรวงแรงงานรับไปดำเนินงานต่อไป 1. ร่างพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1.1 กำหนดให้นายจ้างจัดและดูแลสถานประกอบกิจการให้มีสภาพการทำงานและสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน การปฏิบัติงานของลูกจ้าง มิให้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ และอนามัย 1.2 กำหนดให้บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีความประสงค์จะให้บริการตรวจวัด ตรวจสอบ ทดสอบ รับรอง ประเมินความเสี่ยง รวมทั้งจัดฝึกอบรมหรือให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานต้องขึ้นทะเบียนหรือได้รับอนุญาต ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง 1.3 กำหนดให้มีคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประกอบด้วยปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกรรมการ มีกรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายลูกจ้างฝ่ายละเจ็ดคนกับผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่ง รัฐมนตรีแต่งตั้งอีกห้าคนเป็นกรรมการ มีอำนาจหน้าที่เสนอความเห็นเกี่ยวกับนโยบายแผนงาน หรือมาตรการความปลอดภัย ฯ 1.4 กำหนดอำนาจหน้าที่พนักงานตรวจความปลอดภัย ให้มีอำนาจเข้าไปในสถานประกอบกิจการ ตรวจสอบ บันทึกภาพ ใช้เครื่องมือในการตรวจวัดเก็บตัวอย่างวัสดุ และสอบถามข้อเท็จจริงหรือสอบสวนเรื่องใด ๆ รวมทั้งให้ส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง 1.5 ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นในกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรียกว่า “กองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน” เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายในการดำเนินการด้านความปลอดภัยฯ 1.6 กำหนดให้กองทุนส่วนหนึ่งประกอบด้วยเงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรร ให้และเงินอุดหนุนจากรัฐบาล รวมทั้งให้เงินและทรัพย์สินของกองทุน ไม่ต้องนำส่งกระทรวง การคลังเป็นรายได้แผ่นดิน 1.7 กำหนดให้มี “คณะกรรมการบริหารกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน” มีอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นประธานกรรมการ มีกรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการผู้แทนฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างฝ่ายละห้าคน มีอำนาจหน้าที่กำกับการจัดการและบริหารกองทุน 2. ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้ 2.1 ยกเลิกหมวด 8 ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมใน การทำงานตั้งแต่มาตรการ 100 ถึงมาตรา 107 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 2.2 แก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษของนายจ้างผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541