ภาวะเศรษฐกิจสหภาพยุโรป สิงหาคม 2554 (2)

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 1, 2011 11:45 —กระทรวงการคลัง

บทสรุปผู้บริหาร

  • วันที่ 16 ส.ค.54 สานักงานสถิติฯ Euro Stat ประกาศข้อมูลเบื้องต้นของอัตราขยายตัวเศรษฐกิจในเขตยูโร 17 ประเทศ (Euro area: EA17) ในไตรมาส 2 ปี 2554 โดยขยายตัวเพียงร้อยละ 0.2 จากไตรมาสก่อน(%QoQ) และขยายตัวร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (%yoy) ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ลดลงจากไตรมาสแรกค่อนข้างมาก
  • เศรษฐกิจประเทศหลักขนาดใหญ่ในเขตยูโรโซน (Core Economies) ที่เคยขยายตัวได้ดีและเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สาคัญในเขตยูโรโซนในช่วงทีผ่านมา กลับขยายตัวชะลอลงมาก โดยเฉพาะเยอรมนี ที่ขยายตัวได้เพียง 0.1 %QoQ และฝรั่งเศสที่ไม่มีการขยายตัวในไตรมาส 2 ขณะที่อิตาลี และสเปน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 และ 4 ก็ขยายตัวในอัตราต่าเพียงร้อยละ 0.3 และ 0.2 %QoQ ตามลาดับ
  • เครื่องชี้เศรษฐกิจในไตรมาส 3 ของปี 2554 ซึ่งวัดจากดัชนีผู้จัดการแผนกจัดซื้อรวม PMIในเดือนก.ค.54 บ่งชี้ เศรษฐกิจในเขตยูโรโซนโดยรวมในไตรมาส 3 มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ของปี 2554 เนื่องจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก และภาคบริการที่ลดลงตามการชะลอตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศเขตยูโรโซน
สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลังประจาสหราชอาณาจักรและยุโรป วิเคราะห์ว่า
  • การที่เศรษฐกิจเยอรมนีและฝรั่งเศส เริ่มขยายตัวชะลอลงอย่างมาก สะท้อนว่า เศรษฐกิจหลัก ในยุโรปอาจจะไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของยูโรโซนให้เติบโตได้ดีในระยะต่อไป
  • ธนาคารกลางยุโรป ไม่น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกแล้วในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งในรอบ 6 เดือน โดยดอกเบี้ยน่าจะตรึงอยู่ที่ร้อยละ 1.5 จนสิ้นปี
  • การที่เศรษฐกิจชะลอลงมากดังกล่าว อาจจะส่งผลต่อการส่งออกสินค้าและบริการไทยอย่างมีนัยสาคัญ เนื่องจากการส่งออกของไทยกับยุโรปมีสัดส่วนถึงประมาณ 10% ของมูลค่าการส่งออกรวม และนักท่องเที่ยวยุโรปมายังประเทศไทยมีสัดส่วนสูงถึงกว่าร้อยละ 25 ของจานวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด
  • การชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจหลัก Core Economies อาจส่งผลให้วิกฤติหนี้สาธารณะมีโอกาสแพร่กระจายจากประเทศรอยขอบ Periphery มาสู่ประเทศหลัก โดยเฉพาะประเทศที่มีหนี้สาธารณะสูงและขาดดุลการคลังสูง เช่น สเปนและอิตาลี
ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 2/2554

ข้อมูลเบื้องต้นชี้เศรษฐกิจยูโรโซนไตรมาส 2 เติบโตในอัตราชะลอลงค่อนข้างมากโดยเศรษฐกิจหลักที่เคยเติบโตดีเริ่มขยายตัวลดลงมาก เช่นเดียวกับเศรษฐกิจรอยขอบ

วันที่ 16 ส.ค.54 สานักงานสถิติ Euro Stat ประกาศข้อมูลเบื้องต้นอัตราขยายตัวเศรษฐกิจเขตยูโร 17 ประเทศ (Euro area: EA17) ในไตรมาส 2 ปี 2554 ขยายตัวจากไตรมาสก่อนเพียงร้อยละ 0.2 (quarter on quarter: %QoQ) และร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (year on year: %yoy) ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัวร้อยละ 0.8 (%QoQ) และร้อยละ 2.5 (%YoY)

เมื่อพิจารณาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นรายประเทศ พบว่าเศรษฐกิจประเทศหลักขนาดใหญ่ในเขตยูโรโซน (Core Economies) ที่เคยขยายตัวได้ดีและเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สาคัญในเขตยูโรโซนในช่วงทีผ่านมา โดยเฉพาะเยอรมนี ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดที่ร้อยละ 27 ของเศรษฐกิจยูโร และ ฝรั่งเศส ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 21 ของเศรษฐกิจยูโร ได้ขยายตัวในอัตราชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาส 2 ดังจะเห็นได้จาก เศรษฐกิจเยอรมนี ขยายตัวได้เพียงร้อยละ 0.1 (%QoQ) และเศรษฐกิจฝรั่งเศสในไตรมาส 2 ไม่มีการขยายตัว ขณะที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 และ 4 ในเขตยูโรโซน ได้แก่ อิตาลี และสเปน ซึ่งกาลังประสบปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะเช่นเดียวกับประเทศ PIG (โปรตุเกส ไอร์แลนด์ กรีซ) ก็ขยายตัวในอัตราต่าเพียงร้อยละ 0.3 และ 0.2 (%QoQ) ตามลาดับ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจขนาดเล็กของบางประเทศในเขตยูโรโซนยังขยายตัวได้ดีในไตรมาส 2 เช่น เบลเยี่ยม ออสเตรีย ฟินแลนด์ สโลวาเกีย และเอสตัวเนีย ที่ขยายตัวร้อยละ 0.7 1.0 1.2 0.9 และ 1.8 (%QoQ) ตามลาดับ

สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลังประจำ สหราชอาณาจักรและยุโรป วิเคราะห์ว่า
  • เศรษฐกิจในเขตยูโรโซนเปราะบางกว่าที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เศรษฐกิจเยอรมนี และเศรษฐกิจฝรั่งเศสเริ่มขยายตัวชะลอลงอย่างมาก สะท้อนว่าเศรษฐกิจหลัก (Core Economies) ทั้งสองประเทศ อาจจะไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของยูโรโซนให้เติบโตได้ดีในระยะต่อไป
  • ธนาคารกลางยุโรป ไม่น่าจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกแล้วในปีนี้ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ครั้งในรอบปีที่ผ่านมา โดยสำนักงานที่ปรึกษาคาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.5 ไปอย่างน้อยจนถึงปลายปี
  • การที่เศรษฐกิจในภาพรวมของยุโรปชะลอลงมาก อาจจะส่งผลต่อการส่งออกสินค้าและบริการของไทยอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากสัดส่วนการส่งออกของไทยกับยุโรปมีสัดส่วนถึงประมาณร้อยละ 10 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ขณะเดียวกันสัดส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวยุโรป
มายังประเทศไทยมีสัดส่วนสูงถึงกว่าร้อยละ 25 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด
  • ข้อมูลรายละเอียดของการชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจหลัก Core Economies อาจส่งผลให้วิกฤติหนี้สาธารณะเริ่มแพร่กระจายจากประเทศรอยขอบ Periphery มาสู่ประเทศขนาดใหญ่โดยเฉพาะประเทศที่มีหนี้สาธารณะสูงและขาดดุลการคลังสูง โดยเฉพาะสเปนและอิตาลี ซึ่งอาจทำให้ตลาดการเงินเริ่มขาดความเชื่อมั่นในความสามารถชำระหนี้ของประเทศดังกล่าว และส่งผลให้ตลาดเงินโลกเกิดความผันผวนได้อีกในอนาคต
เครื่องชี้เศรษฐกิจไตรมาส 3 ของปี 2554
  • เครื่องชี้เศรษฐกิจจากดัชนี Composite PMI ของเขตยูโรในไตรมาส 3 หดตัว บ่งชี้ GDP ของเศรษฐกิจยูโรไตรมาส 3 น่าจะขยายตัวลดลงจากไตรมาส 2

เครื่องชี้เศรษฐกิจของเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกในไตรมาส 3 ของปี 2554 ที่วัดจากดัชนีผู้จัดการแผนกจัดซื้อรวมของภาคบริการและภาคการผลิต (Composite Purchasing Managers’ Index: Composite PMI) ของเศรษฐกิจในเขตยูโร บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนโดยรวมปรับตัวลดลง โดยดัชนี Composite PMI ในเดือนกรกฎาคมปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 51.1 จุด ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และเป็นระดับดัชนีที่ต่าที่สุดในรอบ 22 เดือน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาดัชนีผู้จัดการแผนกจัดซื้อเป็นรายสาขา จะเห็นได้ว่าดัชนีภาคอุตสาหกรรม (Manufacturing PMI) และดัชนีภาคบริการ (Service PMI) ปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน โดยสาเหตุที่ดัชนีภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงมาจากการที่การส่งออกของสินค้าอุตสาหกรรมเริ่มลดลงตามเศรษฐกิจโลกที่ชะลอการขยายตัวลง ขณะที่ดัชนีภาคบริการปรับตัวลดลงจากความต้องการซื้อบริการภายในประเทศยูโรที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนที่ชะลอตัว

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group : Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ