รายงานภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่น ประจำสัปดาห์วันที่ 5 - 9 กันยายน 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 12, 2011 10:05 —กระทรวงการคลัง

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้

1. รัฐบาลยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับแผนการขึ้นอัตราภาษีต่างๆเพื่อการฟื้นฟูความเสียหายได้

2. Bank of Japan เห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากปัจจุบัน

3. Cabinet Office แถลงอัตราการเจริญเติบโตของ GDP ลดลงร้อยละ 0.5

4. คำสั่งซื้อเครื่องจักรประจำเดือนกรกฎาคม 2554 ลดลงร้อยละ 8.2

5. ยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนกรกฎาคม 2554 ลดลงร้อยละ 42.4

----------------------------------- 1. รัฐบาลยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับแผนการขึ้นอัตราภาษีต่างๆเพื่อการฟื้นฟูความเสียหายได้

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2554 คณะกรรมการพิจารณาระบบภาษีของรัฐบาลปัจจุบัน ที่มีนาย Jun Azumi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานได้เริ่มการประชุมครั้งแรก โดยมีประเด็นหลักเกี่ยวกับการพิจารณาปรับขึ้นอัตราภาษีต่างๆเพื่อนารายได้ใช้ในงบประมาณเพื่อการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์ภัยพิบัติเมื่อวันที่ 11 เดือนมีนาคม 2554 โดยนาย Yoshihiko Noda นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้คณะกรรมการพิจารณาและนำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราภาษีดังกล่าว แต่เนื่องจากมีคณะกรรมการหลายคนที่ไม่เห็นด้วยต่อการปรับขึ้นอัตราภาษีเนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นชะลอตัวลงเพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันทำให้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในการประชุมครั้งนี้

ในวันเดียวกันรัฐบาลได้แถลงว่ากำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาขายหุ้นของบริษัท Japan Post ที่รัฐบาลถือหุ้นอยู่ทั้งหมดเพื่อนำรายได้ไปใช้ในการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ โดยรัฐบาลได้มีการประเมินว่าจะต้องใช้งบประมาณเพื่อการฟื้นฟูความเสียหายภายในระยะเวลา 5 ปีเป็นจานวนเท่ากับ 16.2 ล้านล้านเยน ซึ่งหากรัฐบาลขายหุ้นของบริษัท Japan Post ได้ก็จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนประมาณ 7 ล้านล้านเยน ซึ่งจะทาให้รัฐบาลลดยอดการปรับขึ้นอัตราภาษีได้ แต่อย่างไรก็ตามหากจะมีการขายหุ้นของบริษัท Japan Post รัฐบาลจะต้องทำการแก้ไขกฎหมาย เนื่องจากเดิมได้มีการออกกฎหมายห้ามรัฐบาลขายหุ้นของบริษัท Japan Post ไว้ในสมัยรัฐบาลภายใต้การนาของพรรค LDP

2. Bank of Japan เห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2554 ที่ประชุมนโยบายเศรษฐกิจของ Bank of Japan (BOJ) ได้ลงความเห็นว่ายังไม่มีความจาเป็นที่จะต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากปัจจุบัน เนื่องจากภายหลังจากการตัดสินใจเพิ่มจำนวนวงเงินเข้าซื้อพันบัตรรัฐบาลและพันธบัตรเอกชนขึ้นอีก 10 ล้านล้านเยนเป็นจำนวนรวม 50 ล้านล้านเยนเมื่อวันที่ 4 เดือนสิงหาคม 2554 ได้ส่งผลให้ตลาดการเงินของญี่ปุ่นได้เริ่มปรับตัวดีขึ้น เช่น ค่าเงินเยนที่แข็งตัวขึ้นอย่างมากนั้นได้เริ่มทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 77 เยนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามยังจะคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อไป สำหรับประมาณการณ์เศรษฐกิจนั้น BOJ กล่าวว่าภาคการผลิตที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั้นได้ฟื้นตัวเกือบหมดแล้วจึงคาดว่าเศรษฐกิจจากนี้ไปน่าจะปรับตัวดีขึ้นตามมา แต่อย่างไรก็ตามยังจะต้องมีการจับตาและเฝ้าระวังผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของประเทศสหรัฐฯ และปัญหาหนี้สินของกลุ่มประเทศ EU ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างไรต่อจากนี้ไป

3. Cabinet Office แถลงอัตราการเจริญเติบโตของ GDP ลดลงร้อยละ 0.5

Cabinet Office แถลงอัตราการเจริญเติบโตของ GDP ที่ไม่รวมผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของค่าครองชีพประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 ลดลงร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลงร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับแบบปีต่อปี ซึ่งเป็นการลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับการประมาณการเดิมว่าที่คาดว่าจะลดลงประมาณร้อยละ 1.3 เนื่องจากการลงทุนในเครื่องจักรและอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 0.9 จากเดิมมีการประมาณการว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 อย่างไรก็ตามการลงทุนด้านสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 จากเดิมที่ได้มีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เนื่องจากการใช้จ่ายของภาครัฐในการฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ

4. คำสั่งซื้อเครื่องจักรประจำเดือนกรกฎาคม 2554 ลดลงร้อยละ 8.2

Cabinet Office ได้เปิดเผยว่าคาสั่งซื้อเครื่องจักรประจำเดือนกรกฎาคม 2554 ลดลงร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ซึ่งการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากคำสั่งซื้อเครื่องจักรจากผู้ประกอบการก่อสร้างอาคารและบ้านลดลงอย่างมาก

5. ยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนกรกฎาคม 2554 ลดลงร้อยละ 42.4

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนกรกฎาคม 2554 มีมูลค่าเท่ากับ 990.2 พันล้านเยน ลดลงร้อยละ 42.4 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันในปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 5 เดือน ส่วนยอดการเกินดุลการค้ามีมูลค่าเท่ากับ 123.3 พันล้านเยน ลดลงร้อยละ 86.3 จากระยะเดียวกับปีก่อนหน้า โดยยอดการส่งออกลดลงร้อยละ 2.3 อยู่ที่ 5.5304 ล้านล้านเยนเนื่องจากการส่งออกไปยังเอเชีย จีนและสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 2.8 1.0 และ 8.2 ตามลำดับ ในขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 อยู่ที่ 5.4072 ล้านล้านเยนซึ่งการเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 19 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากการนาเข้าจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและเอเชียเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.7 และ 8.2 ตามลำดับ

ญี่ปุ่นมียอดการขาดดุลการค้าและบริการมีมูลค่าเท่ากับ 182.9 พันล้านเยน ส่วนยอดการเกินรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลจากการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.1 อยู่ที่ 1.2467 ล้านล้านเยน เป็นผลมาจากเงินปันผลของหุ้นต่างประเทศมีจานวนเพิ่มขึ้น รายละเอียดตามตารางที่แนบ

ดุลการชำระเงินระหว่างประเทศประจำเดือนกรกฎาคม 2554

(Balance of Payments)

หน่วย: พันล้านเยน

รายการ กรกฎาคม 2554 กรกฎาคม 2553 1. ดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account Balance) 990.2 1,718.7 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (-42.4) (29.3) 1.1 ดุลการค้าและบริการ (Goods & Services Balance) -182.9 747.9 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (-) (393.7) 1.1.1 ดุลการค้า (Trade Balance) 123.3 897.1 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (-86.3) (105.7) การส่งออก (Exports) 5,530.4 5,658.4 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (-2.3) (24.6) การนำเข้า (Imports) 5,407.2 4,761.2 (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) (13.6) (16.0) 1.1.2 ดุลบริการ (Services Balance) -306.2 -149.3 1.2 รายได้จากดอกเบี้ย/เงินปันผล (Income) 1,246.7 1,055.8 1.3 การโอนรายได้ (Current Transfers) -73.6 -85.0 2. ดุลบัญชีทุนและการเงิน (Capital & Financial Account Balance) -753.1 -2,139.6 2.1 ดุลบัญชีการเงิน (Financial Account Balance) -754.4 -2,084.5 การลงทุนโดยตรง (Direct Investment) -959.4 28.1 การลงทุนในหลักทรัพย์ (Portfolio Investment) 3,715.4 359.5 การลงทุนในตราสารอนุพันธ์ด้านการเงิน (Financial Derivatives 376.9 224.3 การลงทุนอื่นๆ (Other investments) -3,887.3 -2,696.4 2.2 ดุลบัญชีทุน (Capital Account Balance) 1.3 -55.1 3. ยอดเงินทุนสารองระหว่างประเทศสุทธิ (Changes in Reserve Assets) -18.2 -103.8 ที่มา กระทรวงการคลังญี่ปุ่น สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ