Executive Summary
Indicators this week
- นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือน ส.ค.54 ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวน 1.72 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 35.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือน ส.ค.54 อยู่ที่ระดับ 73.8 จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 74.4 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 54 เป็นต้นมา
- GDP ออสเตรเลีย ไตรมาส 2 ปี 54 ขยายตัวอยู่ร้อยละ 1.2 จากไตรมาสก่อน (%qoq_sa) และร้อยละ 1.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- GDP ของกลุ่มประเทศยูโรโซน ไตรมาส 2 ปี 54 ขยายตัวเท่ากับที่แถลงไว้ก่อนหน้าที่ร้อยละ 0.2 จากไตรมาสก่อนหน้า (%qoq_sa) และร้อยละ 1.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- GDP ญี่ปุ่นไตรมาส 2 ปี 54 ลดลงกว่าที่เคยแถลงมาอยู่ที่ร้อยละ -0.5 จากไตรมาสก่อนหน้า (%qoq_sa) และร้อยละ -1.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- เงินเฟ้อทั่วไปของจีนในเดือน ส.ค. 54 ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ 6.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
Indicators next week
Indicators Forecast Previous
Aug: TISI (Level) 110.0 105.2
- เนื่องจากคาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากอุปสงค์ทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
Economic Indicators: This Week
- นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือน ส.ค.54 ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวน 1.72 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 35.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้เมื่อพิจารณาเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังหักผลทางฤดูกาล (m-o-m SA) ขยายตัวได้ดีเช่นกันอยู่ที่ระดับร้อยละ 14.4 โดยเป็นการขยายตัวในทุกกลุ่มประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ(สัดส่วนร้อยละ 22.8) ได้แก่ จีน เกาหลี และ ญี่ปุ่น ขยายตัวร้อยละ 45.6 74.7 และ 43.6 ตามลำดับ ส่งผลให้ 8 เดือนแรกปี 54 มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 12.90 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 27.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือน ส.ค. 54 อยู่ที่ระดับ 73.8 จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 74.4 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 54 เป็นต้นมา โดยมีปัจจัยหลักมาจากผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ ความไม่มั่นใจในความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และความไม่มั่นใจในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนให้เห็นเป็นรูปธรรมถึงแม้ว่ารัฐบาลได้มีมาตรการปรับลดราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลลง เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพในช่วงปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาก็ตาม
Economic Indicators: Next Week
- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. 54 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 110.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 105.2 โดยได้รับปัจจัยบวกจากอุปสงค์ทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบภาคการผลิตรถยนต์ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการอาจมีความกังวลต่อต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบและอัตราดอกเบี้ย
- ปริมาณจำหน่ายปูนซิเมนต์ภายในประเทศเดือน ส.ค. 54 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 8.6 โดยเป็นผลจากปัจจัยฐานต่ำในปีก่อนที่ปริมาณการจำหน่ายปรับตัวลดลงหลังจากที่ขยายตัวสูงในช่วงเดือน ก.ค.53 ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าและปรับผลทางฤดูกาล คาดว่า ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์จะหดตัวร้อยละ -4.4 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผู้รับเหมามีการเร่งสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างในช่วงก่อนหน้าจากแนวโน้มของราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น
Global Economic Indicators: This Week
China: Mixed signal
- เงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. 54 ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ 6.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยดัชนีราคาอาหารขยายตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ร้อยละ 13.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
Eurozone: Mixed signal
- GDP ไตรมาส 2 ปี 54 ขยายตัวเท่ากับที่แถลงไว้ก่อนหน้าที่ร้อยละ 0.2 จากไตรมาสก่อนหน้า (%qoq_sa) จากภาคการส่งออกที่ขยายตัวได้ดี ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนและภาครัฐหดตัวเป็นครั้งแรก ธนาคารกลางสวิสประกาศอัตราแลกเปลี่ยนขั้นต่ำที่ 1.2 ฟรังต่อยูโร โดยประกาศจะรับซื้อเงินสกุลต่างประเทศ "อย่างไม่จำกัด" เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาคการส่งออก ยอดค้าปลีกเดือน ก.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อนหน้า จากการเพิ่มขึ้นของยอดค้าปลีกในฝรั่งเศส โปรตุเกส และไอร์แลนด์ที่ขยายตัวร้อยละ 0.6 ร้อยละ 2.5 และร้อยละ 0.3 จากเดือนก่อนหน้าตามลำดับ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันเดือน ก.ค. 54ขยายตัวร้อยละ4.0จากเดือนก่อนหน้า(%mom)
Japan: Mixed signal
- GDP ไตรมาส 2 ปี 54 แย่ลงกว่าที่เคยแถลงมาอยู่ที่ร้อยละ -0.5 จากไตรมาสก่อนหน้า (%qoq_sa) จากการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวและการสะสมสินค้าคงคลังที่น้อยกว่าที่ได้แถลงไว้เดิม รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเสนอแผนเพิ่มงบประมาณรายจ่ายรอบที่ 3 วงเงิน 10 ล้านล้านเยนภายในเดือนหน้าเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเดือน ก.ค. 54 หดตัวต่ำที่สุดในรอบ 10 เดือนที่ร้อยละ -8.2 จากเดือนก่อนหน้า
USA: Mixed signal
- ตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. 54 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า อัตราการว่างงานในเดือน ส.ค. 54 ที่คงที่เท่ากับเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 9.1 ของกำลังแรงงานรวมดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ เดือน ส.ค. 54 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 53.3 ประธานาธิบดีโอบามาเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายและลดภาษีวงเงิน 4.47 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย 0.62 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจะใช้เพื่อต่ออายุมาตรการจ้างงานและ 1.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นโครงการลงทุน มูลค่าส่งออกและนำเข้าเดือน ก.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 16.3 และร้อยละ 14.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
Australia: Mixed signal
- GDP ไตรมาส 2 ปี 54 ขยายตัวอยู่ร้อยละ 1.2 จากไตรมาสก่อน (%qoq_sa) และร้อยละ 1.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวร้อยละ 1.0 จากไตรมาสก่อนหน้า ธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 4.75 อัตราการว่างงานในเดือน ส.ค. 54 อยุ่ในระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนที่ร้อยละ 5.3 ของกำลังแรงงานรวม จากการลดลงของการจ้างงานเต็มเวลา (Full-time employment) เป็นสำคัญ
Indonesia: Mixed signal
- มูลค่าส่งออกและนำเข้าเดือน ก.ค. 54 ขยายตัวในอัตราต่ำที่สุดในรอบ 3 เดือนที่ร้อยละ 39.5 และร้อยละ 27.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อนตามลำดับ เงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. 54 ขยายตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 4.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากราคาอาหารที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 5.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 6.75
Malaysia: Mixed signal
- มูลค่าส่งออกและนำเข้าเดือน ก.ค. 54 ขยายตัวที่ร้อยละ 7.1 และร้อยละ 2.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 3.0
Philippines: improving economic trend
- เงินเฟ้อเดือน ส.ค. 54 ต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ร้อยละ 4.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาอาหารและสาธารณูปโภคที่ขยายตัวชะลอลง ธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 4.5
Singapore: Mixed signal
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ส.ค. 54 ทรงตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ที่ระดับ 49.4 โดยยอดสั่งซื้อภาคการส่งออกและสินค้าอิเล็กโทรนิกส์ชะลอตัวลง
South Korea: Mixed signal
- ธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ที่ร้อยละ 3.25
Taiwan: Mixed signal
- เงินเฟ้อเดือน ส.ค. 54 ทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 1.34 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าส่งออกและการนำเข้าเดือน ส.ค. 54 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงที่ร้อยละ 7.2 และ 6.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ
Weekly Financial Indicators
- ดัชนี SET เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ และมีมูลค่าการซื้อขายเบาบาง โดยในช่วงต้นสัปดาห์ดัชนีปรับตัวลดลงตามภาวะ risk averse จากปลายสัปดาห์ก่อนหน้า ส่งผลให้มีมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางมาก อย่างไรก็ตาม ดัชนีได้ปรับตัวสูงขึ้นมาเล็กน้อยในช่วงกลางสัปดาห์ตามตลาดที่กลับมามีภาวะ risk appetite อีกครั้ง จากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าประธานาธิบดี Barack Obama จะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวันที่ 8 ก.ย. 54 ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกครังที่ 256 ล้านบาท ณ วันที่ 8 ก.ย. 54 หลังจากขายสุทธิติดต่อกัน 4 วัน (2 - 7 ก.ย. 54)ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรของไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เช่นกัน โดยทั้งสัปดาห์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในเกือบทุกช่วงอายุปรับขึ้นเล็กน้อย จากการที่ตัวเลขอุปทานของพันธบัตรรัฐบาลในปีงบประมาณ 2555 ที่ออกมาสูงกว่าปีปัจจุบัน ส่งผลให้นักลงทุนเทขายพันธบัตรเพื่อทำกำไรในเบื้องต้น
- ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยปิดที่ระดับ 29.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 8 ก.ย. 54 อ่อนค่าลงร้อยละ 0.1 จากสัปดาห์ก่อนหน้า สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคที่อ่อนค่าลงเช่นกัน เนื่องจากเงินทุนไหลออกจากตลาดหลักทรัพย์เป็นสำคัญ ทั้งนี้ ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในสัปดาห์นี้แข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.37 จากการที่ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าในอัตราที่น้อยกว่าค่าเงินสกุลอื่น ๆ ในภูมิภาค
- ในขณะที่ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนใน ระดับสูง โดยหลังจากที่ในช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองคำปิดที่ 1,898 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ราคาทองได้ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องหลังตลาดคลายความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีการคาดการ์ถึงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศระยะต่อไป
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th