รายงานภาวะเศรษฐกิจรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 26 — 30 กันยายน 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 3, 2011 09:41 —กระทรวงการคลัง

Executive Summary

Indicators this week
  • ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน ส.ค.54 ขยายตัวร้อยละ 7.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.7
  • ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือน ส.ค.54 ขยายตัวร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -7.1
  • ดัชนีราคาสินค้าเกษตร ในเดือน ส.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 9.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 4.8
  • GDP สหรัฐ ไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 0.3 จากไตรมาสก่อนหน้า (%qoq)
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เดือน ก.ย. 54 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าสู่ระดับ 45.4
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เดือน ก.ย.54 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สู่ระดับ 49.3
  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสิงคโปร์ ในเดือน ส.ค.54 ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 21.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • การส่งออกฮ่องกง ในเดือน ส.ค.54 ขยายตัวร้อยละ 6.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนชะลอลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 9.3
Indicators next week
Indicators Forecast Previous Sep: Headline Inflation (%YoY) 4.0 4.3
  • โดยเป็นผลมาจาก 1) การปรับลดลงของราคาน้ำมันในประเทศ เนื่องจากมาตรการยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 2) ราคาเนื้อสัตว์ที่ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะราคาเนื้อสุกร และเนื้อไก่ และ 3) ราคาค่าโดยสารที่ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์น้าท่วม คาดว่าราคาผักจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ทาให้อัตราเงินเฟ้อจะหดตัวลงที่ร้อยละ -0.4 (%mom)
Economic Indicators: This Week
  • ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน ส.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 7.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -0.7 ซึ่งเป็นการกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมอาหารและยานยนต์ที่ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 9.0 และ 15.5 ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศและตลาดโลก โดยเฉพาะจากประเทศจีนและญี่ปุ่น ส่วนอุตสาหกรรมสิ่งทอ ยังคงหดตัวต่อเนื่อง ตามต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกปี 54 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวเล็กที่ร้อยละ -1.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือน ส.ค.54 ขยายตัวร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -7.1 (หรือขยายตัวร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนโดยขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว)ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสาคัญ อาทิ มันสาปะหลัง และข้าวโพด เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวประกอบกับโรคระบาดเพลี้ยแป้งในมันสาปะหลังคลี่คลายลง ในขณะที่ผลผลิตข้าว และยางพารา ยังคงหดตัวเล็กน้อย ตามสภาพภูมิอากาศที่ไม่เอื้ออานวยต่อการผลิตและเก็บเกี่ยว ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกปี 54 ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
  • ดัชนีราคาสินค้าเกษตร ในเดือน ส.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 9.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 4.8 ตามการขยายตัวผลผลิตข้าวเปลือก และยางพาราที่ขยายตัวร้อยละ 6.4 และ 28.6 ตามลาดับส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอุปทานที่ค่อนข้างตึงตัว จากสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวน สอดคล้องกับราคาสินค้าในหมวดปศุสัตว์ที่ราคาเร่งขึ้นเช่นเดียวกันที่ร้อยละ 15.8 จากเดือนก่อนที่ร้อยละ 9.3 ตามการเพิ่มขึ้นของราคาสุกรและไก่เนื้อที่ขยายตัวร้อยละ 23.1 และร้อยละ 9.1 จากเดือนก.ค. 54 ที่ร้อยละ 13.4 และร้อยละ 5.3 ตามลาดับ ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกปี 54 ดัชนีราคาสินค้าเกษตรขยายตัวในระดับสูงร้อยละ 16.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้รายได้รายเกษตกรที่แท้จริง(หักอัตราเงินเฟ้อชนบท) ขยายตัวร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
Economic Indicators: Next Week
  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ก.ย. 54 คาดว่าจะชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากเดือนก่อนที่ร้อยละ 4.3 โดยเป็นผลมาจาก 1) การปรับลดลงของราคาน้ามันในประเทศ เนื่องจากมาตรการยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ามัน 2) ราคาเนื้อสัตว์ที่ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะราคาเนื้อสุกร และเนื้อไก่ และ 3) ราคาค่าโดยสารที่ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์น้าท่วม คาดว่าราคาผักจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ทาให้อัตราเงินเฟ้อจะหดตัวลงที่ร้อยละ -0.4 (%mom)

Global Economic Indicators: This Week

Eurozone: worsening economic trend
  • รัฐสภาเยอรมนีมีมติเพิ่มศักยภาพกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) โดยอนุมัติให้กองทุน EFSF สามารถซื้อพันธบัตรในตลาดรองได้ (Secondary Market) พร้อมทั้งเพิ่มวงเงินค้าประกันในส่วนของเยอรมันในกองทุนจาก 1.23 แสนล้านยูโรเป็น 2.11 แสนล้านยูโร ขณะที่รัฐสภาฝรั่งเศสจะได้พิจารณาประเด็นการเพิ่มวงเงิน EFSF ภายในเดือนนี้ ทั้งนี้ สหภาพยุโรปคาดว่าการเพิ่มวงเงินของ EFSF จะแล้วเสร็จในเดือนหน้า (ต.ค. 54)
Japan: Mixed signal
  • ยอดค้าปลีก เดือน ส.ค. 54 หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ร้อยละ -1.7 จากเดือนก่อนหน้า (%mom_sa) หรือหดตัวร้อยละ -2.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยยอดขายรถยนต์และเครื่องจักรอุปกรณ์หดตัวร้อยละ 19.3 และร้อยละ 18.8 จากเดือนก่อนหน้า ตามลาดับ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.ย. 54 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สู่ระดับ 49.3 บ่งชี้สัญญาณชะลอตัวของภาคการผลิตอัตราว่างงาน เดือน ส.ค. 54 ลดลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.3 ของกาลังแรงงานรวม อัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. 54 คงที่ที่ร้อยละ 0.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
USA: Mixed signal
  • GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 0.3 จากไตรมาสก่อนหน้า (%qoq) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากแถลงการณ์ก่อนหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ย. 54 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าสู่ระดับ 45.4 โดยผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นลดลงต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันแต่มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในอนาคต ยอดขายบ้านใหม่ (New Home Sales) เดือน ส.ค. 54 ต่าที่สุดในรอบ 6 เดือนที่ระดับ 295,000 หลังต่อปีหรือหดตัวร้อยละ -2.3 จากเดือนก่อนหน้า (%mom) ขณะที่ยอดขออนุมัติสร้างบ้านเดือน ส.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 4.0 จากเดือนก่อนหน้าสู่ระดับ 0.625 ล้านหลังต่อปี สาหรับยอดทาสัญญาซื้อขายบ้านเดือน ส.ค. 54 หดตัวร้อยละ -1.2 จากเดือนก่อนหน้า (%mom) คาสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ส.ค. 54 หดตัวร้อยละ -0.1 จากเดือนก่อนหน้า ขณะที่คาสั่งซื้อสินค้าทุน (ไม่รวมเครื่องบินและอาวุธยุทโธปกรณ์) เดือน ส.ค. 54 ขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 3 เดือนที่ร้อยละ 1.1 จากเดือนก่อนหน้า
Singapore: Mixed signal
  • อัตราเงินเฟ้อ เดือน ส.ค. 54 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 54 อยู่ที่ร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาอาหาร และค่าขนส่ง ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. 54 ขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 21.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการผลิตในหมวดสินค้าเครื่องใช้การแพทย์ (Bio-medicals) ที่ขยายตัวเร่งขึ้นมากที่ร้อยละ 145.8 ขณะที่ผลผลิตในหมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หดตัวร้อยละ -21.9 จากปีก่อนหน้า จากอุปสงค์นอกประเทศที่ลดลงประกอบกับค่าแรงและต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ
Philippines: Mixed signal
  • มูลค่าการนาเข้า เดือน ก.ค. 54 ขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 6.6 จาก ช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการหดตัวของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นสินค้านาเข้าอันดับ 1 ที่หดตัวร้อยละ -28.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ทั้งนี้ จากมูลค่าการส่งออกปรับตัวลดลง ส่งผลให้ในเดือน ก.ค. 54 ฟิลิปปินส์ขาดดุลการค้าที่ 570 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
South Korea: Mixed signal
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. 54 ปรับตัวลดลงต่าสุดในรอบ 6 เดือนมาอยู่ที่ระดับ 99.0 ส่วนหนึ่งจากแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางเกาหลีติดต่อกัน 8 เดือน และเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวต่อไป
Hong Kong: Mixed signal
  • การส่งออกเดือน ส.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 6.8 เมื่อเทียบกับช่วง เดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 9.3 จากการส่งออกไปยังสหรัฐฯที่ชะลอลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 สะท้อนอุปสงค์จากนอกประเทศที่ชะลอลง ตามการแผ่วลงของเศรษฐกิจโลก ขณะที่การนาเข้าขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 14.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
Weekly Financial Indicators
  • ดัชนี SET ยังคงผันผวนและปรับตัวในช่วงแคบๆ ต่ากว่าระดับ 960 จุด ตามภาวะ risk averse จากความกังวลของนักลงทุนในภาวะเศรษฐกิจโลก โดยในช่วงต้นสัปดาห์ ดัชนีฯ ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 900 จุดระหว่างวัน ก่อนจะปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีที่ระดับ 904.06 จุด ก่อนจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ ทั้งนี้ ระหว่าง 26 - 29 ก.ย. 54 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิถึง -2,828 ล้านบาท ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรของไทยมีความผันผวนสูง ตามแรงซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยทั้งสัปดาห์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในเกือบทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะพันธบัตรระยะสั้นปรับขึ้น-ลงไม่เกิน 10 bps จากแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติในช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนกลับเข้าซื้อเพื่อเก็งกาไรในช่วงปลายสัปดาห์ โดยทั้งสัปดาห์ (26 - 29 ก.ย. 54) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -421 ล้านบาท
  • ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยปิดที่ระดับ 31.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 29 ก.ย. 54 อ่อนค่าลงร้อยละ 1.43 จากสัปดาห์ก่อนหน้า สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคที่อ่อนค่าลงเช่นกัน ทั้งนี้ ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ในสัปดาห์นี้อ่อนค่าลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.48 สะท้อนค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าในอัตราที่มากกว่าค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค
  • ราคาทองคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจาก ปลายสัปดาห์ก่อนหน้า โดยราคาทองคา ณ วันที่ 29 ก.ย. 54 ปิดที่ 1,614 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลดลงจากต้นสัปดาห์ที่ปิดที่ 1,627 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ