รายงานสรุปสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ - ตุลาคม 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 8, 2011 14:57 —กระทรวงการคลัง

ภาพรวมเศรษฐกิจ
  • เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่อัตราร้อยละ 1.3 (ปรับแก้ไขเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จากที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อน) โดยได้รับปัจจัยทางบวกจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัย การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล การส่งออก และการใช้จ่ายภาครัฐส่วนกลางที่เพิ่มขึ้น
เสถียรภาพเศรษฐกิจ
  • ดัชนีทางการผลิตปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยที่อัตราร้อยละ 0.2 เช่นเดียวกับอัตราการใช้กาลังการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ในเดือนสิงหาคม 2554
  • ยอดการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคอุปโภคส่วนบุคคล (PCE) อยู่ในระดับคงที่เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ในขณะที่ยอดรายได้ส่วนบุคคลสุทธิ (DPI) ปรับลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.3 ในเดือนสิงหาคม 2554
  • ในเดือนกันยายน 2554 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 มาอยู่ที่ระดับการขยายตัวร้อยละ 3.9 ต่อปี ในขณะที่ดัชนีที่ไม่รวมสินค้าอาหารและน้ำมัน (Core-CPI) ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.0 ต่อปี
  • อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน 2554 อยู่ในระดับคงที่ที่ร้อยละ 9.1 โดยมีประชากรได้รับการจ้างงานที่ไม่ใช่เกษตรกรรม (Nonfarm payroll) เพิ่มขึ้น 103,000 คน
  • สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าระหว่างประเทศอยู่ในระดับคงที่ในเดือนสิงหาคมที่ระดับ 45.6 ล้านเหรียญ สรอ.
  • ในเดือนกันยายน 2554 ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโร เงินปอนด์ และเงินบาท โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ร้อยละ 5.0 ในขณะที่มีค่าคงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยน และเงินหยวน
ภาคการเงินและภาคการคลัง
  • วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติไม่ผ่านร่างกฎหมาย American Job Act เพื่อกระตุ้นการจ้างงานของประธานาธิบดีโอบามา มูลค่า 447 พันล้านเหรียญ สรอ. โดยพรรครีพับริกันไม่เห็นด้วยในส่วนของการจัดหารายได้ของแผนดังกล่าวที่มาจากการปรับเพิ่มภาษีรายได้ของผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 200,000 เหรียญ สรอ. ต่อปี ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตได้นำเสนอแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาอีกครั้ง โดยแบ่งการพิจารณาออกเป็นส่วนๆ
  • สหรัฐฯ ได้ลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับปานามา โคลอมเบีย และเกาหลีใต้ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ เห็นว่าความตกลงดังกล่าวจะเป็นปัจจัยสาคัญที่ช่วยสร้างงานให้กับประชากรสหรัฐฯ
  • วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายเพื่อตอบโต้การแทรกแซงค่าเงินหยวนของประเทศจีน โดยจะนาเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ต่อไป
ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ปี 2554
  • ค่า GDP ของไตรมาสที่ 2 ปรับแก้ไขเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 1.3

มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 ปรับแก้ไขเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 มาอยู่ที่อัตราการขยายตัวร้อยละ 1.3 ในการคาดการณ์ครั้งที่ 3 ในเดือนกันยายน 2554 ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลด้านบริการ ปริมาณการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (Non-residential fixed Investment) ด้านโครงสร้าง (Structure) และปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ตลอดจนปริมาณนาเข้าสินค้าและบริการที่ชะลอตัวลดลงกว่าการคาดการณ์ไว้ครั้งก่อนในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าวได้รับปัจจัยทางลบบางส่วนจากปริมาณการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยด้านอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ (Equipment and Software) ที่ขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้น

เครื่องชี้เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ
  • ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือนกันยายน 2554

ในเดือนกันยายน 2554 ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อนหลังจากที่อยู่ในระดับคงที่ในเดือนสิงหาคม ซึ่งส่งผลให้ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวรวมกันด้วยอัตราร้อยละ 5.1 ต่อปี ในขณะที่ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production) ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ร้อยละ 0.4 ในเดือนกันยายนหลังจากที่ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 และ 0.3 ในเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคมตามลาดับ

อัตราการใช้กำลังการผลิต (Capacity Utilization) ของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 จากเดือนก่อนมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 77.4 ของกำลังการผลิตทั้งหมดของสหรัฐฯ ซึ่งต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของการใช้กำลังการผลิตในระหว่างปี 2515-2553 อยู่ร้อยละ 3.0 (ค่าเฉลี่ยของปี 2515-2553 คิดเป็นร้อยละ 80.4)

  • รายได้ของประชากรสหรัฐฯ ชะลอตัวลดลงเพิ่มเติม ในขณะที่การใช้จ่ายอยู่ในระดับคงตัว

ในเดือนสิงหาคม 2554 ภาพรวมด้านรายได้ของประชากรสหรัฐฯ ชะลอตัวลดลงเพิ่มเติมจากเดือนกรกฎาคม โดยรายได้ส่วนบุคคลที่สามารถนำไปใช้ได้จริง (Real-DPI) ที่ปรับลดลงร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ในขณะที่ภาพรวมด้านการใช้จ่ายของประชากรสหรัฐฯ อยู่ในระดับคงตัวหลังจากปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนในเดือนก่อนหน้า โดยยอดการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคอุปโภคที่แท้จริง (Real-PCE) ในเดือนสิงหาคมปรับเพิ่มขึ้นในอัตราต่ากว่าร้อยละ 0.1

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือนกันยายน 2554 ซึ่งส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัวอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.9 ต่อปี ในขณะที่ดัชนีราคาที่ไม่รวมสินค้าอาหารและน้ำมัน (Core-CPI) ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 จากเดือนก่อน ซึ่งส่งผลให้อยู่ที่ระดับการขยายตัวร้อยละ 2.0 ต่อปี

  • อัตราการว่างงานอยู่ในระดับคงที่ที่ร้อยละ 9.1

อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน 2554 อยู่ในระดับคงที่ที่ร้อยละ 9.1โดยสหรัฐฯ มีประชากรที่อยู่ในวัยทางาน (Labor force) ทั้งหมด 154.0 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 64.2 ของประชากรทั้งหมด ในขณะที่สหรัฐฯ มีจานวนประชากรได้รับจ้างงานเพิ่มขึ้นจานวน 398,000 คน มาอยู่ที่ระดับ 140.0 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 58.3 ของประชากรทั้งหมด ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีประชากรว่างงานทั้งหมด 14.0 ล้านคน

ในช่วงเดือนที่ผ่านมาการจ้างงานที่ไม่ใช่เกษตรกรรม (Nonfarm payroll) ขยายตัวเพิ่มขึ้น 103,000 คน โดยการปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าวบางส่วนมาจากการกลับมาทางานของพนักงานบริษัทโทรคมนาคมหลังจากที่หยุดงานจากการประท้วงในเดือนก่อน และบางส่วนจากการขยายตัวของการจ้างงานด้านบริการวิชาชีพ สาธารณสุข และการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม การจ้างงานของหน่วยงานรัฐบาลยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง

มลรัฐที่มีอัตราการว่างงานสูงสุดในสหรัฐฯ ได้แก่ รัฐเนวาดา (ร้อยละ 13.4) รัฐแคลิฟอร์เนีย (ร้อยละ 11.9) และรัฐมิชิแกน (ร้อยละ 11.1) ตามลำดับ

เครื่องชี้เสถียรภาพเศรษฐกิจต่างประเทศ
  • สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าอยู่ในระดับคงที่ที่ 45.6 พันล้านเหรียญ สรอ. ในเดือนสิงหาคม

ในเดือนสิงหาคม 2554 สหรัฐฯ ยังคงขาดดุลการค้าระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปริมาณการขาดดุลอยู่ในระดับคงที่เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ระดับ 45.6 พันล้านเหรียญ สรอ. โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการ (Export) และมูลค่าการนำเข้าสินค้าและบริการ (Import) ปรับลดลงเล็กน้อยในช่วงเดือนที่ผ่านมา

มูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการปรับลดลง 0.1 พันล้านเหรียญ สรอ. มาอยู่ที่ 177.6 พันล้านเหรียญ สรอ. ในขณะที่มูลค่าการนาเข้าสินค้าและบริการปรับลดลง 0.1 พันล้านเหรียญ สรอ. มาอยู่ที่ 223.2 พันล้านเหรียญ สรอ. ในเดือนสิงหาคม

ทั้งนี้ ประเทศคู่ค้า 3 ประเทศหลักที่สหรัฐฯ ประสบภาวะขาดดุลการค้าในด้านสินค้าและผลิตภัณฑ์ (ไม่รวมมูลค่าการบริการ) ได้แก่ จีน สหภาพยุโรป และเม็กซิโก โดยในเดือนสิงหาคม 2554 มูลค่าการขาดดุลกับจีน สหภาพยุโรปและเม็กซิโกปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า

          US Trade           China            Europe            Mexico
                        ---------------------------------------------------------
                         Aug 11  Jul 11   Aug 11  Jul 11    Aug 11   Jul 11
     Export                8.41    8.17    22.4    21.4      17.8      16.1
     Import                37.4    35.1    31.4    30.2      23.3      21.0
     Trade Balance        -29.0   -27.0   -8.98   -8.86     -5.47     -4.90
     ที่มา: สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ (www.bea.gov)

นโยบายทางการคลังและฐานะการคลัง
          - วุฒิสภาลงมติไม่ผ่านแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
          เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2554 วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติ 50 ต่อ 49 ไม่ผ่านร่างกฎหมาย American Job Act เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโอบามา ที่มีมูลค่ารวม 447 พันล้านเหรียญ สรอ. โดยกฎหมายดังกล่าวได้มุ่งเน้นนโยบายกระตุ้นการสร้างงานให้กับประชากรสหรัฐฯ โดยประกอบด้วย (1) แผนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) มูลค่า 105 พันล้านเหรียญ สรอ. (2) เงินช่วยเหลือรัฐบาลส่วนท้องถิ่นจานวน 35 พันล้านเหรียญ สรอ. (3) การขยายการปรับลดหย่อนภาษีหักจากค่าจ้าง (Payroll taxes) สาหรับประชากรสหรัฐฯ และธุรกิจขนาดย่อมมูลค่ารวม 245 พันล้านเหรียญ สรอ. และ(4) กองทุนสาหรับผู้ว่างงาน (Unemployment benefit) มูลค่า 62 พันล้านเหรียญ สรอ. อย่างไรก็ตาม การลงมติไม่เห็นชอบของวุฒิสภานั้นเป็นไปตามความคาดการณ์ของหลายฝ่าย เนื่องจากประธานาธิบดีโอบามาได้เสนอการปรับเพิ่มภาษีของประชากรที่มีรายได้สูง หรือมากกว่า 200,000 เหรียญ สรอ. ต่อปี เพื่อเป็นรายได้มาชดเชยกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งพรรครีพับริกันไม่เห็นด้วย
          ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตได้ทำการเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่รัฐสภาสหรัฐฯ อีกครั้ง โดยจะทาการเสนอในลักษณะที่แบ่งการพิจาณาเป็นส่วนๆ เริ่มจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลส่วนท้องถิ่นจานวน 35 พันล้านเหรียญ สรอ.ที่มุ่งเน้นการสนับสนุนการจ้างงานในด้านการศึกษา และแผนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานจำนวน 60 พันล้านเหรียญ สรอ. ตามลาดับ โดยล่าสุดวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติไม่เห็นชอบแผนในส่วนของกองทุนสำหรับรัฐบาลส่วนท้องถิ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
          - ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินยูโร และเงินปอนด์
          ภาพรวมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศในเดือนตุลาคม 2554 เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเล็กน้อย หรือประมาณร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับเงินยูโร และเงินปอนด์ ในขณะที่มีค่าคงที่เมื่อเทียบกับ เงินเยน และเงินหยวน เมื่อเทียบกับช่วงเดือนกันยายน 2554 ทั้งนี้ อัตราการแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2554 อยู่ที่ 1.3759 USD/EUR, 1.5993 USD/GBP, 0.0131 USD/JPY, และ 0.1568 USD/CNY
          เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าคงที่เมื่อเทียบกับเงินบาทในเดือนตุลาคม 2554 โดยมีการปรับขึ้นลงเป็นระยะๆ ในระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนที่ 30 THB/USD ถึง 31 THB/USD ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2554 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 30.8347 THB/USD ลดลงเล็กน้อยจาก 30.8547 THB/USD เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2554

ประเด็นทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่สำคัญ
          - รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านมติเห็นชอบความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement: FTA) กับปานามา โคลอมเบีย และเกาหลีใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากมีการเจรจาต่อรองเป็นเวลากว่า 5 ปี โดยรัฐบาลสหรัฐฯ เล็งเห็นว่าความตกลงทางการค้าดังกล่าวจะเป็นปัจจัยสาคัญที่สนับสนุนการขยายตัวของการส่งออกของสหรัฐฯ และเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างงานให้กับประชากรสหรัฐฯ
          - วันที่ 10 ตุลาคม 2554 วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ลงมติผ่านร่างกฎหมาย Currency Exchange Rate Oversight Reform Act of 2011 เพื่อตอบโต้การแทรกแซงค่าเงินหยวนของประเทศจีน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เนื่องพรรครีพับริกันที่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นด้วยกับประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้ ในปี 2552 และ 2553 พรรคเดโมแครตได้เสนอร่างกฎหมายลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ไม่เคยได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาสหรัฐฯ


          Economic Stability Analysis Division | Macroeconomic Policy Bureau
          Dr. Soraphol Tulayasathien, CFA, FRM, Dr. Sirikamon Udompol,
          Sasin Pringpong and Archana Pankanchanophas
          Tel. (02) 273 9020 Ext. 3254 :  www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ